ศธ.แจ้ง ร.ร.เลิกบังคับตัดผม "เกรียน-บ๊อบติ่งหู"
ศธ.ทำหนังสือส่งถึงโรงเรียนในสังกัดให้อนุญาตนักเรียนชายไว้ผมรองทรงได้ ขณะที่นักเรียนหญิงเลือกไว้ผมสั้น-ยาวได้
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯและรมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จัดทำหนังสือเวียนเพื่อแจ้งไปยังสถานศึกษาในกำกับของ ศธ.ทุกแห่ง เพื่อกำชับว่า ในเรื่องของทรงผมนักเรียนนั้น ต้องยึดกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2518
ซึ่งระบุไว้ชัดเจน ให้นักเรียนชายไว้ทรงยาวแบบรองทรงได้ และให้นักเรียนหญิงเลือกไว้ผมสั้นหรือยาวได้
จากการตรวจสอบข้อกฎหมายพบว่า มีกฎหมายเกี่ยวกับแบบทรงผมของนักเรียน นักศึกษาอยู่ 2 ฉบับที่ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เม.ย. 2515 คือ
กฎกระทรวง ฉบับที่ 1 พ.ศ.2515 ซึ่งระบุ
1. ห้ามไม่ให้นักเรียนชายไว้ผมข้างหน้าและกลางศีรษะยาวเกิน 5 เซนติเมตร และชายผมรอบศีรษะต้องตัดเกรียนชิดผิวหนัง และ
2. นักเรียนหญิงตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ หากโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาตให้ไว้ยาวเกินกว่านั้นก็ให้รวบให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตามต่อมามีการแก้ไขกฎกระทรวงดังกล่าวเพิ่มเติมจนเป็น กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 6 ม.ค. 2518 ระบุว่า
1. นักเรียนชายให้ตัดผมหรือไว้ผมยาวจนด้านข้างและด้านหลังยาวเลยตีนผม และ
2. นักเรียนหญิงให้ตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ หากโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาตให้ไว้ยาวเกินกว่านั้นก็ให้รวบให้เรียบร้อย
"ที่ผ่านมาในทางปฏิบัติโรงเรียนยังคงยึดติดกับทรงผมเกรียนตามกฎกระทรวง พ.ศ. 2515
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะกฎกระทรวงฉบับใหม่ เปิดโอกาสให้เด็กไว้ทรงยามแบบรองทรงได้
จึงออกหนังสือเวียนแจ้งให้ทุกโรงเรียนยึดการปฏิบัติตามกฎกระทรวงฉบับแก้ไขในปี2518"
นายพงศ์เทพกล่าวขอบคุณภาพข่าวจาก
www.posttoday.com/สังคม/การศึกษา/197894/ศธ-แจ้งร-ร-เลิกบังคับนร-ชายตัดผมเกรียน