พิมพ์

[raponsan]

กาลครั้งหนึ่ง...ต้องไป ‘พระธาตุผาซ่อนแก้ว’

แสงสีทองที่ส่องประกายระยิบระยับยามต้องกับแสงแดดยามเย็นและลอยเรี่ยอยู่เหนือไอหมอกยามเช้าช่วยขับให้เจดีย์สีทองที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาไม่ไกลจากแยกแคมป์สนยิ่งดูโดดเด่นและหากมีโอกาสแวะเวียนเข้าไปเพ่งมองดูใกล้ ๆ

แสงสีทองที่ส่องประกายระยิบระยับยามต้องกับแสงแดดยามเย็นและลอยเรี่ยอยู่เหนือไอหมอกยามเช้าช่วยขับให้เจดีย์สีทองที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาไม่ไกลจากแยกแคมป์สนยิ่งดูโดดเด่นและหากมีโอกาสแวะเวียนเข้าไปเพ่งมองดูใกล้ ๆ ก็จะยิ่งเห็นความงดงามที่ซ่อนอยู่ยิ่งขึ้นกว่าเดิมที่นี่ “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” แห่งเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งในสิบเส้นทางในฝันตามโครงการ “Dreamdestination กาลครั้งหนึ่ง..ต้องไป” ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ที่มุ่งเน้นการสร้างกระแสหลงรักประเทศไทย

 

“ผาซ่อนแก้ว”เป็นชื่อยอดเขาที่ได้มาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านซึ่งมองเห็นลูกแก้วลอยลงมาจากฟ้าก่อนลับหายไปบริเวณถ้ำที่ยอดเขากลายเป็นความเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จลงมาและต่อมาที่นี่ก็เป็นที่ตั้งของ “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” ก่อนจะเปลี่ยนฐานะมาเป็น “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

นอกจากที่ตั้งซึ่งดูโดดเด่นแล้วสีสันแปลกตาที่แต่งแต้มอยู่นั้นเกิดจากเศษกระเบื้องสีถ้วยชามเบญจรงค์ เซรามิกไปจนถึงของมีค่าอย่างมุกลูกปัด แก้วแหวนเงินทองที่ลูกศิษย์ลูกหาผู้มีจิตศรัทธานำมาประดับตกแต่งไว้โดยมีเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้วสิริราชย์ธรรมนฤมิตรูปทรงวิจิตรงดงามที่เลียนแบบดอกบัวที่ซ้อนกัน 7 ชั้นเพื่อถวายแต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าส่วนยอดเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ใต้ฐานเป็นที่เก็บรวบรวมหลักธรรมคำสอนภาพปริศนาธรรมรวมถึงใช้เป็นที่เจริญสติภาวนาสำหรับพุทธศาสนิกชน

ไปถึงเขาค้อแล้วอย่าลืมแวะไปชมพระตำหนักเขาค้อ พระตำหนักที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์ โดยตั้งอยู่บนเขาย่า สูงจากระดับน้ำทะเล 1,100 เมตร โดยข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ร่วมใจกันจัดสร้างขึ้นหลังจากสงครามสงบลง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในพื้นที่ทั้งยังเป็นที่ทรงงานและแปรพระราชฐานมาประทับแรมในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯตรวจเยี่ยมโครงการตามพระราชดำริในพื้นที่เขาค้อ

แวะดูร่องรอยประวัติศาสตร์ที่ฐานอิทธิก่อนจะไปชอปปิงสินค้าเกษตรที่ไร่ บี.เอ็น.แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายจากผู้ที่มาเที่ยวเขาค้อโดยมีผลไม้เมืองหนาวผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตามฤดูกาลรวมทั้งสินค้าแปรรูปต่าง ๆ และพลาดไม่ได้กับ ROUTE 12 มนต์เสน่ห์แห่งถนนสาย12

 

นั่งเรือชมแมงกะพรุนน้ำจืดกิจกรรมเฉพาะฤดูกาลที่สามารถหาชมได้บนเขาค้อเพียง 2 เดือนในฤดูร้อนเท่านั้นคือเดือนมีนาคม-เมษายน เพราะเป็นช่วงที่น้ำในลำน้ำเข็กมีการไหลเวียนน้อยเปิดโอกาสให้แมงกะพรุนน้ำจืดตัวน้อยเท่าเหรียญสิบนับเป็นพัน ๆ ตัว แหวกว่ายอวดสายตาผู้มาเยือน นอกจากนี้ยังได้ชมเหล่าผีเสื้อนานาพันธุ์และพรรณไม้แปลกตาริมสองฝั่งลำน้ำ

แล้วกลับลงไปเที่ยวพิษณุโลกต่อที่วัดจุฬามณี โบราณสถานที่มีมาก่อนสมัยสุโขทัยเคยเป็นที่ตั้งของเมืองสองแควเก่ามีโบราณสถานสำคัญคือปรางค์แบบขอมขนาดย่อม ฐานกว้าง 11 เมตร ยาว 18 เมตร ก่อด้วยศิลาแลง ด้านหน้าก่อเป็นแบบตรีมุขตั้งบนฐานสูงซ้อนกันสามชั้น แต่ละชั้นย่อมุมไม้ยี่สิบ มีปูนปั้นประดับลวดลายตามขั้น ตอนล่างแถบหน้ากระดานและบัวหน้ากระดานเป็นลายหงส์เหมือนกับองค์ปรางค์ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดลพบุรี สมัยที่ยังสมบูรณ์อยู่มีกำแพงแก้วล้อมรอบ

แวะสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวรลักษณะเป็นศาลาทรงไทยสีขาวภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปหล่อองค์สมเด็จพระนเรศวรทรงนั่งหลั่งน้ำจากสุวรรณภิงคาร (น้ำเต้าทอง) เพื่อประกาศอิสรภาพให้แก่ปวงชนชาวไทยในปี พ.ศ. 2127 ณ เมืองแครง หลังจากที่ได้ทราบว่าพระเจ้ากรุงหงสาวดีมีจิตคิดประทุษร้ายต่อพระองค์ วางแผนให้พระยาเกียรติและพระยารามเข้าปลงพระชนม์แต่ด้วยบุญญาบารมีของพระองค์มหาเถรคันฉ่องซึ่งเป็นอาจารย์ของพระยาทั้งสองได้ช่วยเหลือเข้าแจ้งเหตุล่วงหน้าและชักชวนให้พระยาเกียรติและพระยารามเข้าร่วมกับองค์สมเด็จพระนเรศวร

ชมพระราชวังจันทน์สถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประสูติและเจริญพระชันษาที่เมืองสองแควพิษณุโลกจนถึง 9 พรรษาก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะเสียกรุงครั้งที่ 1 และพระองค์ต้องเสด็จไปอยู่ ณ เมืองหงสาวดี จากพระกรณียกิจคุณูปการรวมถึงทรงกอบกู้เอกราชหลังจากเสียกรุงครั้ง

 

ที่ 1 (ปี พ.ศ. 2112) และประกาศอิสรภาพด้วยพระมหากรุณาธิคุณนี้จึงได้มีการจัดสร้างพระบรมรูปองค์สมเด็จพระนเรศวรประดิษฐานไว้ภายในศาล

เที่ยวพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน “จ่าทวี” ของ จ่าสิบเอก ดร.ทวี บูรณเขตต์ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2533 จัดตั้งขึ้นหลังจากที่ท่านได้รวบรวมเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้านที่สะสมไว้เป็นจำนวนมากมาจัดแสดงพร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยในอดีตซึ่งบ่งบอกถึงภูมิปัญญาชาวบ้านได้อย่างน่าสนใจแล้วแวะไป วัดราชบูรณะเป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิษณุโลกเชื่อว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยในสมัยเดียวกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ(วัดใหญ่, วัดพระพุทธชินราช) ซึ่งเป็นที่สุดท้ายที่จะแวะไปสักการะพระพุทธชินราชพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทยองค์หนึ่งพร้อมซื้อของฝากเป็นการตบท้าย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสายการบินแอร์เอเชียและเดลินิวส์ ชวนเดินทางตามเส้นทาง “Dreamdestination กาลครั้งหนึ่ง..ต้องไป” กรุงเทพฯ-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 28-30 มีนาคม 2557 รับจำนวนจำกัดเพียง 20 ที่นั่งเท่านั้นสอบถามที่ บีเอฟทราเวล โทร. 0-2370-1432 Hotline 08-9825-8465 หรือดูรายละเอียดที่ www.bf-travel.com

นอกจากนี้ ททท.ยังร่วมกับสายการบินแอร์เอเชียจัดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้ในชื่องาน  “ม่วนแซบ หนุกจังฮู้ บินเที่ยวทั่วไทยไปกับแอร์เอเชีย” หวังกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยให้คึกคักทุกภาคด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้มเริ่มต้นเพียง 555 บาทต่อเที่ยว (ราคานี้รวมค่าธรรมเนียมและภาษีสนานบินแล้ว) จองได้ตั้งแต่วันนี้-23 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อเดินทางระหว่าง 20 กุมภาพันธ์-30 มิถุนายน 2557 สำรองที่นั่งทาง www.airasia.com

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/Article/217962/กาลครั้งหนึ่ง...ต้องไป+‘พระธาตุผาซ่อนแก้ว’

[Jojo]

 

[komol]

 

[kobyamkala]

นอกจากพระธาตุ ผาซ่อนแก้ว แล้วไม่มีที่อื่น  ที่น่าสนใจหรือคะ

 

[ธุลีธวัช (chai173)]

มีอีกที่หนึ่งที่ยากและอยากจะไป ไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่รู้ว่าใครจะมีปัญญาไป "เวิ้งซ่อนกริช" มีไอ้เขี้ยมขวางรักษาอยู่ด้วยครับ!