ภาวนา อย่างไร ไม่กัดกินโลก
ไม่ตัดพ้อ ต่อว่า โลก
ยิ่งละตัว ละตน ก็ยิ่งละโลก
ตกลงแคร์โลก ก็คือแคร์ตน
มีผู้ภาวนามากมาย ที่นิ่งเงียบ เพราะไม่เห็นสาระของโลก
บางคนมาภาวนา เพื่อ ให้ได้สุข ให้ได้สรรเสริญ ให้ได้ยศ ให้ได้ลาภ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ยังพ้นจากโลก นั่นเอง การภาวนา เมื่อภาวนาขั้นสูง ก็ย่อมสูญเสีย สิ่งที่เรียกว่า โลก
ผมภาวนามาไม่มาก แต่พอทราบได้ว่า ทุกครั้งที่จิตอธิษฐาน เพื่อเป็นพระสาวก ผมจะสูญเสีย สิ่งที่เรียกว่าของโลกทุกครั้ง ที่อธิษฐาน แต่แปลกตรงที่ว่า จิตมันสงบเร็วมาก
ครั้งแรกผมสูญเสีย รถยนต์ ราคา 200000 กว่าบาท
นี่เพียงแค่กล่าวเริ่มต้นนะครับ ยังมีอีกหลายอย่าง แต่ก็ไม่เคยได้บ่น ว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือโทษใคร ๆ สิ่งที่รู้ก็คือ มันไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา เราไม่ได้เป็นเจ้าของอะไร
ส่วนท่านที่กำลังดูถูก ดูผิด เกี่ยวกับเรื่องพระพุทธรูป ผมว่าโกมลกล่าวถูก นะครับ ว่าพระพุทธรูป หลาย ๆองค์ได้บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าส่วนธาตุที่ทรงไว้จริง อยู่นะครับ
การได้สักการะ ส่วนนี้ มีบุญจริง ไม่ใช่แต่มองว่าเป็น อิฐ หิน ปูน ทราย เหล็ก โลหะ ทองเหลือง แต่ประการใด แต่คุณทั้งหลายที่ พระพุทธรูป มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่อยู่ที่การดลบันดาล ให้คุณประสบความสำเร็จ แต่คุณจะได้บุญจากการทำสักการะ ทุกครั้งที่ บูชา ด้วยอามิสบูชา ด้วยปฏิบัติบูชา
คงกล่าวได้แค่นี้
ขออย่าให้ท่านทั้งหลาย อย่าได้ใช้อารมณ์เป็นเครื่องตัดสิน ว่าถูก หรือ ผิด เพราะแท้ที่จริง ไม่มีถูก และผิด ในเส้นทางของโลกุตตรธรรม
สมมุติว่า
คุณพลัดตกในสายน้ำ ด้วยกันเป็นกลุ่ม มีคนที่มีเรี่ยวแรง พยายามว่ายไปหาฝั่ง โดยที่ไม่ช่วยคุณเลย และเขาก็ถึงฝั่งเพราะไม่ได้ช่วยคุณ แต่ก็มีคุณมาช่วยคุณ และก็จมพร้อมกับคุณ
คำถามก็คือ
คนที่ว่ายถึงฝั่ง คือ คนเห็นแก่ตัวใช่หรือไม่ ?
คนที่ช่วยคุณ และจมด้วยกัน คือ คนไม่เห็นแก่ตัวใช่หรือไม่ ?
คุณชอบคนไหน ระหว่างสองคนนั้น
ทั้งหมดนี้ถึงจะเป็นคำถาม แต่ก็เป็น สัจจะ จริง แท้ที่จริง ไม่มีถูก และ ไม่มีผิด ที่มีอยู่ ก็คือ ทุกข์ และ นิพพาน เท่านั้น
คุยกันเท่านี้ อย่าหลงทาง ถ้าคุณมาถูกทางแล้ว จงมั่นใจ และมั่นคง ต่อพระรัตนตรัย
