พระพุทธศาสนา ไม่เคยให้วัตถุ เพราะเป็น พุทธศาสนา เป็นปรมัตถ์
สิ่งที่เป็นวัตถุ เรียกว่า ทาน ไม่ใช่พุทธศาสนา เป็นข้อประพฤติ ส่วนหนึ่งของมนุษย์ ที่มีใจงาม ที่มีมาก่อนพุทธศาสนา สำหรับการให้พระสงฆ์ ไปมอบรอยยิ้ม เป็นเรื่องสังคมมากเกินไป หน้าที่ของพระสงฆ์ จริง ๆ คือการกระทำ พระนิพพานให้แจ้ง แต่เพราะพระสงฆ์ยุคปัจจุบัน ไม่นำพาเรื่องปฏิบัติเท่าไหร่ จึงดูเหมือนมีเวลาว่างมาก นอนกันมาก ปล่อยเวลามาก สังคมจึงจัดให้พระสงฆ์ไปมีบทบาท ในด้านการเป็นผู้นำตั้งแต่ ศ๊ลธรรม จน ถึง ปรมัตถ์ธรรม เห็นด้วยหรือไม่ ? ก็เห็นด้วย แต่ ถ้ามีพระสงฆ์รูปใด ปรารถรนา ในนิพพานสมบัติ ตาม พระพุทธเจ้าแล้ว ก็ควรใส่ใจในการภาวนา มากกว่า เรื่องการบริการสังคม เพราะพระสงฆ์ ถึงไม่ยิ้มแย้ม ก็ยังเป็นที่พึ่งของชนชาวพุทธอยู่แล้ว ด้านกำลังใจ เป็นเนื้อนาบุญของโลกชาวพุทธ ดังนั้น การมีอยู่ของพระสงฆ์ ก็คือ การสร้างขวัญกำลังใจ ให้ กับประชาชนในตัว สิ่งสำคัญต้องไปเข้มงวด เรื่องพระสงฆ์ที่ปฏบัิิติตนมิชอบ มากกว่า อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ
จากประสบการณ์การเดินทาง อันยาวนาน มานี้ สรุป พระสงฆ์ในยุคนี้ ที่ปฏิบัติดี ชอบ และเอาจริงจังในการภาวนา มีน้อยมาก 1000 รูป เจอสักรูป ก็เยี่ยมแล้ว ส่วนใหญ่ มัวแต่มัวเมา ในลาภ ในยศ ในสุข ในสรรเสริญกันอยู่ ไม่ได้เอาปฏิบัติจริง ใช้การปฏิบัติเป็นเครื่องมือหา ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ซะเป็นส่วนใหญ่
เจริญธรรม / เจริญพร