
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส
เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง โดยชอบ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส
เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง โดยชอบ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส
เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง โดยชอบ
ธาตุ-ขันธ์-อายตนะ สัมพันธ์
ธรรมบรรยายที่จะแสดงต่อไปนี้ เป็นธรรมที่มีอยู่ในตัวของพวกเราท่านทั้งหลายแล้วทุกคน แต่โดยมากพวกเราไม่ค่อยจะสนใจโดยเข้าใจว่า ธรรมคือ ตำราที่ท่านจารึกเป็นอักษรไว้ในหนังสือหรือคัมภีร์ต่างๆ หากไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนในนั้นแล้วจะไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ ไม่เข้าถึงธรรมดังนี้ เป็นต้น
หรือบางท่านก็จะเข้าใจไปเสียว่าธรรมนั้นเราศึกษาเล่าเรียนไว้ให้มากๆ แล้ว ได้โอกาสจึงปฏิบัติเอา เหมือนกับเราหาทรัพย์ไว้ให้มากๆ แล้วจึงนั่งกินนอนกิน ดังนี้ก็มี หรือมิฉะนั้นเราก็เห็นไปว่า ธรรมเป็นเรื่องของพระที่อยู่ในวัด มิใช่เรื่องของฆราวาส หรือธรรมเป็นของสูงเหลือวิสัยที่จะปฏิบัติได้ หรือเห็นว่าเป็นของล้าสมัยไปเสียแล้ว ฯลฯ
ขอโทษท่านผู้อ่านทั้งหลาย ความเข้าใจทั้งหมดดังที่ว่ามานั้น ยังไม่ตรงกับความจริง และถูกต้องตามประสงค์ของพระพุทธองค์อย่างแท้จริง แต่มันไปถูกตามพระประสงค์ของพระเจ้าของเรา (คือ กิเลส) ข้อเท็จจริงถ้าท่านสนใจสักหน่อย ขอกรุณาได้ติดตามธรรมบรรยาย ที่ข้าพเจ้าจะแสดงต่อไปนี้
อาจพบธรรมว่ามีอยู่พร้อมในตัวของเรานี้แล้ว ไม่ต้องหาธรรมที่อื่นและเห็นหรือได้หรือเข้าถึงที่อื่นเลย ลงมือพิจารณาคิดค้นได้แล้ว มิใช่เรื่องของใครทั้งหมดแต่มันเป็นของแต่ละบุคคลจะต้องพิจารณาให้รู้ให้เข้าใจ เห็นด้วยปัญญาอันชอบของตนเองเท่านั้น เป็นของไม่สูง ไม่ต่ำ ไม่นอก ไม่ใน ไม่ลึก ไม่ตื้น ไม่หยาบ ไม่ละเอียด พอดีๆ แก่นิสัย วาสนาของตนๆ ซึ่งบุญกรรมตกแต่งมาให้ไว้เป็นสมบัติของแต่ละบุคคลเพื่อให้มาใช้ มาดู มารู้ มาเห็น อันจะเป็นประโยชน์แก่ตัวของตัวเอง เมื่อพากันเข้าใจอย่างนี้แล้ว ขอเชิญตรวจดูบรรยายธรรมต่อไปได้เลย