นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการสร้างศูนย์แสดงสินค้านานาชาติไทย-จีน ที่ถนนบางนา-ตราด มูลค่า 45,000 ล้านบาทนั้น แม้จะเป็นการลงทุนของต่างชาติ ไม่ถือว่าผิด พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจต่างด้าว พ.ศ. 2542 เพราะเป็นการลงทุนที่มีหุ้นส่วนคนไทยรวมอยู่ด้วย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องของภาคเอกชน
“เราเปิดให้ทุนตะวันตกเข้ามา ก็ต้องให้ทุนจากจีนเข้ามาอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่พอทุนจีนจะเข้ามา ก็ตั้งคำถาม ส่วนเรื่องสอบ นอมินี ไม่อยากให้คิดไปถึงขนาดนั้น เพราะมีทุนไทยร่วมลงทุนอยู่ด้วย แต่ผมไม่ใช่เอกชนจะไปพูดแทนเอกชนว่าเป็นทุนจากไหนบ้าง คงไม่ได้ แต่ยืนยันว่าการลงทุนนี้ไม่ผิดกฎหมาย”
ทั้งนี้ ได้เตรียมเชิญนักธุรกิจจากสภา
หอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาห กรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เพื่อชี้แจงให้เกิดความเข้าใจในการเข้ามาลงทุน เพราะเอกชนบางส่วนอาจไม่เข้าใจข้อเท็จจริงโครง การทั้งหมด ส่วนข้อสงสัยว่าทำไมรัฐบาลไม่ดำเนินโครงการลักษณะนี้เอง เนื่องจากโครงการที่เกี่ยวกับธุรกิจการค้า หากรัฐเข้าไปดำเนินการ ส่วนใหญ่จะไม่ประสบความสำเร็จ เช่น ศูนย์กระจายสินค้าไทยที่กรุงอัมสเตอร์ดัม เพราะภาครัฐมีข้อจำกัดหลายด้าน
การลงทุนนี้ จะยกระดับการค้าของธุรกิจเอสเอ็มอีที่ต้องการส่งออกแต่ถูกมองข้าม ไม่ใช่การเข้ามาลงทุนและสร้างความเสียหายให้เอสเอ็มอี โดยจะเปิดโอกาสให้เอกชนไทยเข้าไปในพื้นที่ในศูนย์ฯ มากกว่า 30% ไม่ใช่แค่ 30% ตามที่เข้าใจกัน ส่วนย่านการค้าที่ไทยมีอยู่จะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ในพื้นที่นั้นสามารถดูแลตัวเองได้
“ผมไม่อยากให้วิจารณ์ไปทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง คาดว่าจะเชิญมาหารือกันในสัปดาห์หน้า ซึ่งกระแสก็คงเหมือนกับการทำเอฟทีเอ แรก ๆ ก็คัดค้าน แต่ตอนนี้เห็นประโยชน์”.
ของปลอมจะระบาดเยอะหรือไม่ รอดูต่อไป
ที่มา
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=562&contentID=116842