ตามเมลจากเพื่อนครับ ว่าช่วงนี้จะช่วยกันตอบในกระทู้ประเด็นเดียวครับแต่ให้ตอบกันอย่างต่อเนื่องครับ แทนการเพิ่มกระทู้ครับ
ก็เห็นด้วยครับ เพราะถ้าเราให้ข้อมูลในเรื่องเดียวกันในมุมมอง ทัศนะคติ ของแต่ละคนย่อมจะมีเส้นทางการแก้ปัญหาได้ครับ
สำหรับเรื่องนี้ ผมเองก็คิด 2 แบบครับ คืือ
1.คิดเข้าข้างฝ่ายหญิง คือ ต่อต้าน ไม่ร่วมด้วย ไม่เห็นด้วย ไม่ทำตาม ไม่ .... อีกหลายไม่ ซึ่งความคิดนี้ฝ่ายหญิง น่าจะเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว น่าจะหาคำตอบไว้มากมายพอสมควรแล้ว เพียงแต่คำอธิบายของพวกเราจะไปโดนใจอะไรบ้างนั้นเราก็ยังไม่รู้ นะครับ เพราะเป็นเรื่องจองใจเธอแล้ว
2.คิดเข้าข้างฝ่ายชาย คือ ทำไม ไม่ให้โอกาสแก่เขาบ้าง เพราะอาจจะเป็นเนื้อคู่กันมา เมื่อถึงเวลาก็ได้เจอกัน และอีกหลายๆ
ประเด็นในฐานะผู้ชาย ที่ิคิดเข้าข้างผู้ชายด้วยกัน ประเด็นนี้ คุณ doremon ได้นำเสนอไปแล้ว
แต่ต่อไปนี้ ผมขอเสนอประเด็นใหม่ครับ คือเป็น ประเด็นธรรม ครับ
ผมเชื่อว่าตอนนี้ ทุก ๆ ฝ่าย ต้องกระวนกระวาย ในคำตอบของฝ่ายหญิง อยู่พอสมควร เพราะเเรืื่องทั้งหมดถูกผูกลง
ไปที่ฝ่ายหญิง จะยินยอม ลงเอยด้วยหรือไม่ ดังนั้นในสังคมโลกที่เกิดขึ้นมาแล้ว พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสในธรรมจักร
ว่า มีความปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์ ความประสพกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ที่พอใจ ก็เป็นทุกข์ สรุปแล้ว ขันธ์ทั้ง 5
เป็นตัวทุกข์
ตอนนี้ ความทุกข์ ได้เข้าเล่นงาน ทุกคนแล้ว โดยเฉพาะคุณครู ความทุกข์ทีเล่นงานตอนนี้ ต้องถือ วิกฤติ เป็นโอกาส แทน
ที่เราจะทุกข์เพราะเรื่องต่าง ๆ เรากับมาพิจารณาความทุกข์ นี้มีเหตุปัจจัยอันเนื่องด้วยอะไร แล้วทำไมเราต้องทุกข์กับเรื่องนี้ทั้ง ๆ ที่ ความทุกข์เราก็ไม่ต้องการทุกข์ ให้เราสาวหาสาเหตุแห่งความทุกข์ และ ปล่อยวาง
ความทุกข์ลงเสีย ดีกว่าหรือไม่ครับ เพราะเรื่องเหล่านี้เราเห็นเป็นธรรมดา เหมือน ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ และ ความตาย ซึ่งเราเห็นกันธรรมดา แต่พอเราเจอเหตุการณ์อย่างนี้ ใจเรากับเห็นว่าเป็นทุกข์ พอมีความเกิด เราก็ดีใจ เสียใจ
พอมีความแก่เราก็ดีใจ เสียใจ เป็นต้นทำให้ใจเราหวั่นไหว ไปเพื่ออะไรครับ เป็นเพราะว่าใจเราไม่เห็นตามความเป็นจริงใช่หรือ
ไม่ครับ เพราะยังยึด เหตุกับผล นั้นมาใส่ใจเสมอว่า นั่นเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา
ประเด็นนี้ ผมว่าน่าจะสำคัญกับภาวะจิตใจของผู้ประสพทุกข์ นะครับ
แนะนำนะครับ
หายใจ เข้า เป็น พุท หายใจออก เป็น โธ เดี๊ยวก็มีทางออกครับ
