ขอบคุณ คะ กระทู้นี้ก็นานมากแล้ว
เหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้น กับความกล้าหาญ ที่จะยอมรับความจริง
คุณปุ้มอยากให้เล่า ก็เล่าสักนิดคะ
อันความรัก ถ้ามีเกิดขึ้นกับใครแล้ว ในยามนั้น เหมือนโลกหยุด
ยิ่งยามที่เราได้อยู่กับคนที่เรารัก ด้วยแล้ว เวลาทั้งหมด อยากให้
ไหลผ่านไปช้า ช้า
ความรัก มาคู่กับ ธรรม 2 อย่าง คือ สมหวัง และ ผิดหวัง
คุณจะได้ยืนอยู่ตรงไหนของความรัก ก็ขึ้นอยู่ที่บุพพกรรมที่ทำร่วมกันมา
หากเราไม่เคย สั่งสมความเป็นเนื้อคู่กันมาก็ย่อมไม่ประสพกับความสมหวัง
หากเราได้เคยสั่งสม ความเป็นเนื้อคู่กันมาก็ย่อมประสพกับความสมหวัง
สำหรับธรรม ที่รักหนอได้ พบนั้นเป็นเรื่องของความไม่สมหวัง เนื่อง
จากคนที่เรารัก ก็พึ่งจะแต่งไปช่วงไม่กี่เดือนนี้แล้ว เขาใช้เวลาจีบ ดูใจกัน
เพียง 2 เดือน ในขณะที่เรานั้น คบกันมาตั้งแต่ ม4 ( 10 กว่าปี ) ด้วยสัญญา
หากเรียนจบแล้ว มีงาน มีฐานะ ก็จะมาสู่ขอหมั้นหมาย กัน
คำสํญญา ในครั้งนั้นผูกมัด หัวใจของหญิงสาว ที่รอความหวัง
ให้ตั้งความหวัง และ ก็มอบใจให้ แต่ไม่พลีกายให้ เนื่องด้วยรักหนอ
นั้นเป็นอุบาสิกา มั่นคงในศีล มีการอบรมธรรมะมาตั้งแต่อายุ 15 ปี
เนื่องด้วยคุณยายเป็นผู้สนับสนุน ได้ฟังธรรมะ จากพระสงฆ์ ผู้ทรงศีล
และกิตติคุณ ไม่น้อย
แต่ยามเมื่อความรัก มันแผลงศรเป็นพิษ ที่ปักในทรวง ยิ่งทรมาน
ด้วยความมาดหมายว่าเราเป็นเจ้าของ เจ้าของ และ เจ้าของ
ด้วยธรรมะที่เกิดแต่สมาธิ มีพระอาจาย์เป็นผู้อบรมในกรรมฐาน
ใจที่รุ่มร้อนนั้น ก็มองเห็นได้ว่า แท้จริง กายนี้ไม่ใช่เรา การนี้ไม่เป็นเรา
กายนี้ไม่มีในเรา มีแต่จิตล้วน ๆ ที่ดำเนินตามกฏแห่งกรรม
สังสารวัฏ มีแต่ความทุกข์ และ ความทุกข์ก็รอเราอยู่อีกมากในสังสารวัฏฏ์นี้
พุทโธ เป็นธรรมะที่ล้ำค่า เพราะประกอบด้วยประโยชน์แห่งจิต เมื่อได้ภาวนา
พุทโธ จึงส่งผลให้ใจแช่มชื่นด้วยปีติ และ เบิกบาน พร้อมปล่อยวาง ความเป็น
เรา มีเรา และ เรา ๆ ออก ถึงแม้จะปลดออกได้ไม่หมด ก็ขอตอบว่า
ขณะนี้ใจรักหนอ สุขสงบมาหลายเดือน แล้วเทียว เปลี่ยนความสิเน่หา เป็น
การอนุโมทนา ให้กับคนที่เราเคยรัก และห่วงใย ตอนนี้ รักหนอ ก็ขอมอบความรัก
นี้ให้กับบุคคลที่สำคัญ กว่าใครอื่น ก็คือ คุณพ่อ และ คุณแม่ และ คุณยาย ที่อบรม
เลี้ยงดู มอบคุณธรรมให้รักหนอ ได้รู้จักและพบพาน พุทธศาสนา อันเป็นที่พึ่งที่แท้
ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ที่ใดมีทุกข์ ที่นั่นก็มีธรรมะ ที่ใดมีสุข ที่นั้นก็มีวิป้สสนา
คำสอนที่ รักหนอ จดจำไว้จากพระอาจารย์ ก็คือ "แม้สุขก็ต้องละ จักถึงนิพพานได้"
