พิมพ์

[noppadol]

ขออภัย ขอแนะนำแบบชาวเกาะหมุย ครับ
ถ้าเราเดินทางไปที่สระบุรี จากกรุงเทพ ก็จะผ่านเส้นทางวัดที่ควรจะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำจังหวัดสระบุรี ครับ

1. เริ่มต้นด้วย วัดพระพุทธฉาย อยู่ก่อนถึงสระบุรี 6 ก.ม.ถัดจาก ร.ร.นานาชาติ ถ้าขับไปเส้นบายพาสก็ได้ครับ
2. เลี้ยวซ้ายที่ สี่แยกไฟแดงตรงสถานีตำรวจ ไปหน้าศาลากลาง เข้าไปวัดศาลาแดง เพื่อกราบไหว้ พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ
3. เลี้ยวขวา ขับข้ามไฟแพง ไปฝั่งตลาด ประมาณ 1 ก.ม. ไปที่วัดศรีบุรีรตนาราม ไปกราบไหว้ หลวงพ่อพุทโธ
4. เลี้ยวขวากับมา แล้วเลี้ยวซ้าย ที่สี่แยกไฟแดง ขับไปเจอสามแยกไฟแดง รพ.สระบุรี เลี้ยวซ้ายไป รพ. ขับตรงไป 1.2 กม. ถึงวัดแก่งขนุน เข้าไปกราบไหว้ หลวงพ่อเมตตามหาสิทธิโชค
5. เลี้ยวขวาออกจากวัดไป เส้นบายพาสไปลพบุรี ผ่านวัดหน้าพระลาน แวะเข้าไปกราบหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ วัดเกจิหลวงปู่ศรี
6. ตรงต่อไป วัดพระพุทธบาทวรมหาวิหาร กราบไหว้รอยพระพุทธบาท
7. ขากลับ ก็แวะไปวัดถ้ำนารายณ์ วัดเขาวง
8. เลี้ยวขวา ไปเจอสี่แยกไฟแดงอีกครั้งให้ขับแล้วเลี้ยวซ้าย ไปเสาไห้ ในเส้นทาง บ้านยาง ปากบาง ให้แวะไปวัดอัมพวัน กราบศพหลวงพ่อย้อย
9. ขับเลยอีกประมาณ 3 ก.ม.ก็แวะวัด พะเยาว์ กราบไหว้พระพุทธรูปทองคำ
ขับรถ ข้ามสะพานแล้วเลี้ยวซ้าย ไปเจอสี่แยกบายพาส กรุงเทพครับ


นี่เป็นเ้ส้นทางแนะนำที่ผมได้ใช้ เดินทางมาแล้วครับสามารถได้กราบสิ่งศักดิื์สิทธิ์ที่สระบุรี ได้ในเวลา 1 วันครับAeva Debug: 0.0005 seconds.

[noppadol]

http://www.watphraphutthachai.com/

เป็นเว็บวัดพระพุทธฉายครับ

[noppadol]

http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538956551&Ntype=42

เป็นเว็บเกี่ยวกับหลวงพ่อพุทโธ วัดศรีบุรีรตนาราม ครับ

[noppadol]

http://www.saraburitourism.com/tourism/watsaladang.htm

เป็นเว็บที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ

[noppadol]

http://www.watkhaowong.com/

เป็นเว็บวัดถ้ำนารายณ์เขาวง

[noppadol]

http://watphrabuddhabat.org/home/

เป็นเว็บวัดพระพุทธบาทครับ

[noppadol]

หลวงพ่อทองคำวัดพะเยาว์

หลวงพ่อพุทโธ วัดศรีบุรีรตนาราม

หลวงพ่อเมตตามหาสิทธิโชค วัดแก่งขนุน

[noppadol]

[noppadol]

เงาพระพุทธฉาย

[noppadol]

หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน

[ธุลีธวัช (chai173)]

   

หลวงพ่อ "พุทโธ" เป็นพระพุทธปฏิมากรที่สำคัญด้วยมีนามว่า พุทโธ เสมือนเป็นสื่อ

บ่งบอกถึงแนวปฏิปทาธรรมในองค์หลวงปู่สิน (พระครูวัตตโสภณ) จวบกระทั่งถึง

องค์หลวงปู่หนู (พระศีลวิสุทธิดิลก) องค์พระพุทธปฏิมากรหลวงพ่อ

"พุทโธ" แม้มีนามว่า พุทโธ นั้น ย่อมแสดงถึงสายธรรมกรรมฐานหนึ่ง แต่ด้วยขาดข้อยืนยันจากผู้รู้จึง

ขาดหายในเรื่องราวถึงแนวปฏิปทาธรรมในสายพระกรรมฐานแห่งองค์หลวงปู่สิน (พระครู

วัตตโสภณ) จวบกระทั่งถึงองค์หลวงปู่หนู (พระศีลวิสุทธิดิลก) เนื่องด้วย

วัดปากเพรียวเป็นสายคันถธุระ จึงละเสียซึ่งอัตตชีวประวัติของพระสงฆ์ทั้ง ๒ รูป ที่มีบารมีธรรมระดับหนึ่งให้เป็นที่

กล่าวขานระลึกถึงของครูบาอาจารย์ (คันถธุระ) รุ่นหลัง อาทิเช่น พระอาจารย์มหาบุญธรรม

รตนโชโต (พระครูปริยัติสรคุณ) อดีตเจ้าคณะอำเภอเมืองสระบุรี (ฝ่ายมหานิกาย) ได้กล่าวถึง

วัตรปฏิบัติไว้อย่างน่าเคารพ และเป็นที่ยำเกรงของเหล่าภิกษุสามเณรญาติโยมที่อาศัยบารมีท่านในอาวาสขณะ

นั้น ผมศิษย์รุ่นหลังใคร่เคารพในครูบาอาจารย์เก็บเอาความทรงจำเล็กๆมาบอกกล่าวให้แลเห็นว่าวัดปากเพรียว

นอกจากมีพระพุทธรูปที่สำคัญแล้วยังมีประวัติอันเนื่องด้วยองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต)

พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย อีกทั้งมีพระสงฆ์ที่น่าเคารพเลื่อมใสในอดีตอยู่ อยากให้ลงอัตตชีวประวัติของ

พระสงฆ์ทั้ง ๒ รูปนี้ด้วย....สวัสดีครับ

                                                                         
                                                                                                                                                                                 

[ISSARAPAP]

ผมเองก็อยากประวัติ ครับ คุณธรรมธวัช สนับสนุนด้วยนะครับ
 

[translate]

คุณธรรมธวัช ช่วยเหล่าประวัติเจ้าคุณหนู ให้ผมทราบด้วยนะครับ

ได้ยินชื่อมานาน แล้วที่วัดเพรียว

แต่ ผมคนรุ่นหลัง ก็ยังไม่ทราบเรื่องอยู่ดี

 

[ธุลีธวัช (chai173)]

วัดศรีบุรีรตนาราม (วัดปากเพรียว)

http://www.mochit.com/place/2327

http://maps.google.co.th/maps?hl=th&ie=UTF8&q=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1+%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5&fb=1&gl=th&hq=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1&hnear=%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5&view=map&cid=7201142190558709316&iwloc=A&ved=0CDsQpQY&sa=X&ei=aiBQTNeEMJyQvAOasNj7BA

http://wikimapia.org/10473755/th/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7

หลวงพ่อ "พุทโธ"
และ
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (จำลอง)

http://www.tessaban2.ac.th/index5.htm

http://www.saraburiculture.com/page_msg.php?content=info&headId=31&HImg=mxihvoe1w9y1ts1f83vr.gif&msg=%CA%B6%D2%B9%B7%D5%E8%B7%D2%A7%C7%D1%B2%B9%B8%C3%C3%C1

http://www.krusiam.com/community/forum/view.asp?forumname=%A2%E8%D2%C7%C7%A7%A1%D2%C3%BE%C3%D0&postid=ForumID0039069

[arlogo]

อนุโมทนา ประวัติข้อมูล ที่จริงประวัติของวัดปากเพรียว นั้นหาคนรู้น้อยมาก

พระเก่าแ่ก่ ไม่กี่รูป ที่จะรู้ประวัติ เคยลองเข้าไปสอบถามแล้วยังไม่รู้เลย

ไม่ต้องใคร อาตมาเองซึ่งเป็นศิษย์วัดปากเพรียวเองก็ยังตกเรื่องประวัติ ด้วยเหมือนกัน

อนุโมทนา กับ คุณธรรมธวัช ที่นำประวัติมาให้สมบูรณ์เพิ่มขึ้น

 

[ธุลีธวัช (chai173)]

พระศีลวิสุทธิดิลก (หลวงปู่หนู สุวณฺณโชโต)

อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีบุรีรตนาราม (วัดปากเพรียว)

                    วัดปากเพรียว หรือ “วัดพระศรีบุรีรตนาราม”  เป็น วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองสระบุรี  ตั้ง

อยู่ที่ตำบลปากเพรียว  อำเภอเมือง  จังหวัดสระบุรี  เป็นวัดที่สำคัญทางประวัติศาสตร์  ครั้งหนึ่งพระแก้วมรกต

เคยมาประดิษฐานพักอยู่ที่วัดนี้  ก่อนที่จะอัญเชิญเข้าสู่กรุงเทพฯ  มีพระพุทธรูปนามว่า “หลวงพ่อพุทโธ”  เป็น

พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสระบุรีให้ความเคารพสักการะประดิษฐานอีกด้วย

                ประวัติความเป็นมาของวัดศรีบุรีรตนาราม หรือวัดปากเพรียว  จากการเรียบเรียงของคุณนิตย์ 

ไชยขันธ์ ได้บันทึกข้อมูลไว้ว่า  คำว่า “ปากเพรียว” หมายถึง ตั้งอยู่ปากคลองเพียว และคำว่า “เพรียว”  หมาย

ถึง ยาว หรือเพียวลม  วัดปากเพรียวนี้ตั้งอยู่ปากคลองเพรียวเยื้องกับวัดหนองโสนซึ่งอยู่ตรงข้าม  สันนิษฐานว่า

สร้างราว พ.ศ.2092  มีนามเดิมว่า “วัดม่วงงาม” 

                เมืองสระบุรีนั้นเดิมเรียกว่า เมืองปากคลองเพรียว  โดยเอาปากคลองเพรียวมาเป็นชื่อเมือง  ไว้

เป็นที่รวมพลสำหรับกองทัพ เรียกขานกันมาแต่สมัยพระเจ้าจักรพรรดิ์แห่งกรุงศรีอยุธยา  สันนิษฐานกันว่า “วัด

ปากเพรียว” สร้างขึ้นไว้เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองในสมัยนั้น  เพื่อทำพิธีทางศาสนาของกองทัพ  ตัวเมืองที่ตั้งอยู่ในเขต

อำเภอเสาไห้นั้น  น่าจะเป็นการตั้งครั้งหลังเพราะเทียบวัตถุและปูชนียสถานที่ก่อสร้างแล้ว  ไม่มีสิ่งก่อสร้างใดๆ

เก่าเท่ากับวัดปากเพรียวเลย

                วัดปากเพรียวมีภิกษุสามเณรจำพรรษาสืบต่อกันมาเป็นร้อยๆ ปี แต่ไม่สามารถสืบทราบได้ว่าใคร

เป็นสมภารองค์แรกๆ ทราบก็แต่เพียงว่ามีสมภารเจ้าวัดรูปหนึ่งกับน้องชาย  หนีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเสียแก่ข้า

ศึกพม่า มาเป็นสมภารที่วัดแห่งนี้ เรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่”  เมื่อสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึกตีเมืองเวียง

จันทร์ ได้นำพระแก้วมรกตมาถึงสระบุรีพักไว้ที่วัดปากคลองเพรียวเป็นเวลา ๑ เดือน มีการจัดงานฉลองสมโภช

3 วัน สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ พระมหาอุปราช

เสด็จมารับพระแก้วมรกตอัญเชิญลงเรือ  ที่หน้าวัดปากคลองเพรียวนำกลับสู่กรุงธนบุรี (หนังสือพงศาวดารกรุง

ธนบุรี)  เมื่อหลวงพ่อใหญ่มรณภาพลง  หลวงพ่อเล็กน้องชายก็เป็นสมภารแทน

                สำหรับหลวงปู่หนู หรือ พระศีลวิสุทธิดิลกนั้น นามเดิมว่า หนู นามสกุลเพ็ชรศรี  เกิดเมือวันศุกร์

ขึ้น 8 ค่ำเดือน 6 ปีมะโรง  ตรงกับวันที่  22  เมษายน  พ.ศ.2447  ท่านเกิดที่บ้านห้วยขมิ้น ตำบลห้วยขมิ้น

อำเภอหนองแค  จังหวัดสระบุรี  โยมบิดาชื่อนายบุญ  โยมมารดาชื่อ นางเที่ยง มีพีน้องทั้งหมด 13 คน หลวงปู่

หนูเป็นคนที่ 12 เมื่อโตขึ้นท่านเข้าศึกษาอักษรสมัย  สำเร็จชั้นประถมปีที่ 4  เมื่อ พ.ศ.2459 ที่โรงเรียน

ประชาบาลวัดบ้านสร้าง  พออายุครบบวชก็อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดห้วยทองหลาง  ตำบลห้วยขมิ้น  อำเภอ

หนองแค  จังหวัดสระบุรี  เมื่อวันที่  11  พฤษภาคม  พ.ศ.2467  โดยมี เจ้าอธิการสุข วัดหนองนาค เป็นพระ

อุปัชฌาย์  พระอธิการย่น วัดห้วยทองหลาง เป็นพระกรรมวาจาจารย์  พระอาจารย์หมี วัดหนองนาค เป็นพระอนุ

สาวนาจารย์  สำเร็จญัตติกรรมเวลา 08.00 น.  ได้รับฉายาว่า “สุวณฺณโชโต” 

                หลัง จากบวชแล้วท่านก็ศึกษาพระธรรมวินัยควบคู่ไปกับการพัฒนาวัด  ซึ่งภายในบริเวณอาราม

ศรีบุรีรตนาราม ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนชาวสระบุรีให้ความเคารพนับถือกันมากนั้นก็คือ “หลวงพ่อพุทโธ”

เป็นพุทธปฏิมากรมีความศักดิ์สิทธิ์มาก  ความเป็นมาของหลวงพ่อพุทโธนั้น  กำเนิดขึ้นมาในช่วงปี พ.ศ.2470 

ในรัชสมัยสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 องค์พระนั้นทางชาวบ้านสระบุรีเป็นผู้ร่วมกันสร้าง  ส่วนเศียร

พระพุทธรูปท่าน พระครูวิหารกิจจานุการ หรือ หลวงพ่อปาน โสนนฺโท แห่งวัดบางนมโคท่านเป็นผู้สร้าง  แล้วให้

ชาวสระบุรีมานำเอาเศียรพระไปประกอบเข้าด้วยกัน  องค์หลวงพ่อพุทธโธ เมื่อสร้างเสร็จแล้วงดงามมาก  พระ

พักตร์อิ่มเอิบ ยิ้มแย้ม แสดงถึงความมีเมตตาอันควรแก่การเคารพ  พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปแบบสมัย

สุโขทัย อยุธยา จนมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์  หน้าตักกว้าง 2 เมตร 30 เซนติเมตร  ส่วนสูงนับจากพระเกศมา

ยังฐานที่ประทับสูง 3 เมตร 60 เซนติเมตร  รูปแบบมารวิชัยประดิษฐานอยู่ในวิหารข้างอุโบสถ

                หลวงพ่อพุทโธศักดิ์สิทธิ์  มีเรื่องเล่ากล่าวขานเกี่ยวกับอิทธิปาฏิหาริย์ที่หลวงพ่อแผ่บารมี  ปกป้อง

คุ้มครองช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน  ต่อมาเมื่อปี พศ.2512 เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่เมืองสระบุรี ไฟไหม้โรงเรียน

เทศบาลติดกับวิหารหลวงพ่อพุทโธ

วอด และบ้านละแวกวัดก็ถูกไฟไหม้แต่วิหารหลวงพ่อพุทโธไม่มีอะไรมาแพ้วพานเลย

                เล่ากันว่าเมื่อก่อนใต้ฐานองค์หลวงพ่อพุทโธเป็นบ่อน้ำ มีอยู่คราวหนึ่งเกิดโรคตาแดงระบาดหนัก

ชาวบ้านมาเอาน้ำในบ่อลูบหน้าปรากฏว่าโรคตาแดงหายชะงัก 

http://www.mongkolsoros.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=84

วัตถุมงคลเจ้าคุณหนู วัดปากเพรียว

เหรียญรุ่น 1

เหรียญรุ่น 2

[ธุลีธวัช (chai173)]

พระราชเมธากร (ทองย้อย โชติวโร)

เจ้าอาวาสวัดศรีบุรีรตนาราม (วัดปากเพรียว)

พระราชเมธากร

                พระราชเมธากร เดิมชื่อ ทองย้อย เพชรศรี เกิดวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๔๗๓  ณ บ้านเลขที่ ๕

หมู่ ๙ ตำบลหนองไม้ซุง อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อนายแป้น มารดาชื่อ นางจู มีพี่น้องร่วม

บิดามารดารวม ๑๑ คน ท่านเป็นบุตรคนโตของครอบครัว

             ชีวิตวัยเยาว์

             นายทองย้อย เพชรศรี มีนิสัยรักการอ่าน ชอบศึกษาค้นคว้าหาความรู้เสมอ ชอบช่วยเหลือชาว

บ้าน และมีความสนใจพระพุทธศาสนาเป็นพิเศษ เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนวัดหนองไม้ซุง

ตำบลหนองไม้ซุง อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วช่วยบิดา มารดาประกอบอาชีกสิกรรม ทำนา

จำนวน ๗๐ ไร่ อย่างขยันขันแข็ง จนอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์

                 อุปสมบท

                 เมื่อ วันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๔ ณ วัดผดุงธรรม ตำบลสระโสม อำเภอภาชี จังหวัดพระ

นครศรีอยุธยา พระศีลวิสุทธิดิลก วัดศรีบุรีรตนาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการชื้น วัดห้วยขมิ้น เป็นพระกรรม

วาจารย์ พระสอน วัดหนองปลาหมอ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้นามฉายาว่า “โชติวโร” แล้วย้ายสังกัดมาจำ

พรรษาที่วัดศรีบุรีรตนาราม สอบได้นักธรรมเอก พ.ศ.๒๔๙๗ สอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค พ.ศ.๒๕๐๕

สอบได้วิชาชุดครูพิเศษมูล พ.ศ.๒๕๐๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีบุรีรตนาราม ต่อมาดำรงตำแหน่งรอง

เจ้าคณะอำเภอเมืองสระบุรี พ.ศ.๒๕๑๔ และเป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลด้วย จนกระทั่งได้

ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี ในปี พ.ศ.๒๕๔๐

              พระมหาทองย้อย โชติวโร เป็นพระที่เคร่งต่อพระธรรมวินัยสวดมนต์ไหว้พระ ทำวัตรเช้า-เย็นทุก

วันเป็นประจำไม่ว่างเว้น มีการประกอบพิธีสังฆกรรม (สวดพระปาฏิโมกข์) ทุกกึ่งเดือน

              ตลอดปีปกครองพระภิกษุสามเณรในวัดตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับของมหาเถรสมาคมและพระ

ธรรมวินัยโดยเคร่งครัด และให้ภิกษุสามเณรทุกรูปในวัดต้องศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม และ

แผนกบาลี ถ้ารูปใดสอบไม่ได้นักธรรมหรือบาลีชั้นใดชั้นหนึ่งภายในสามปี ต้องกลับสำนักเดิม และไม่มีอธิกรณ์

ใดฯ ภายในวัด

              พระราชเมธากร(พระมหาทองย้อย โชติวโร) ให้ความสำคัญต่อการศึกษาเป็นพิเศษ ได้จัดหา

อุปกรณ์การศึกษา หนังสือ ตำราเรียน ให้แก่นักเรียนทุกหลักสูตรอย่างเพียงพอ จัดซื้อโต๊ะเรียนสื่อการเรียน

การสอน เครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า เครื่องถ่ายเอกสาร ทุนการศึกษา ทุนสวัสดิการ พระภิกษุสามเณร นักเรียนอย่าง

พอเพียง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๖๘๔.๐๔๐ บาท และท่านยังได้เป็นประธานอุปถัมภ์โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดศรีบุรี

รตนาราม) ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๓ เป็นต้นมาและได้จัดหากองทุนสงเคราะห์นักเรียนชั้นประถมศึกษา จำนวนเงิน

๗๗,๔๕๐ บาท กองทุนสงเคราะห์นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา จำนวนเงิน ๗๔,๗๗๘ บาท และกองทุนสงเคราะห์

นักเรียนชั้นอุดมศึกษา จำนวนเงิน ๖๓,๖๗๙ บาทโดยนำเงินกองทุนฝากธนาคารแล้วนำดอกผลมาให้ทุนการ

ศึกษานักเรียนยากจน และยังได้จัดหาทุนการศึกษาต่างๆ มอบให้นักเรียนยากจนอีกมากมาย รวมเป็นเงินการ

ศึกษาสงเคราะห์ทั้งสิ้น ๗๓๗,๘๔๗ บาท

                  งานด้านสาธารณูปการ

                  ได้ก่อสร้างถาวรวัตถุภายในในวัดมากมาย เช่น หอประชุมพระสังฆาธิการ ศาลาธรรมสังเวช ซุ้ม

ประตูด้านทิศตระวันตก และห้องน้ำ ห้องสุขา ห้องอาบน้ำรวม รวมเงินค่าก่อสร้างทุกรายการเป็นเงิน

๑,๖๑๗,๐๐๐ บาท

               การบูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุภายในวัดอีกหลายรายการ เช่น บูรณะปฏิสังขรณ์ศาลา

ธรรมสังเวช (ศาลาอดิเรกสาร) โรงเรียนพระปริยัติธรรม ปรับปรุงเตาเผาศพจากใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิง เป็นใช้

น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่า ๒,๑๐๐,๐๐๐ บาท บูรณะปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญ

ซ่อมแซมถนนทางเดินเท้า ปลูกไม้ยืนต้น ไม้ดอก ไม้ประดับ ภายในบริเวณวัด และปรับปรุงเสนาสนะ เพื่อจัดทำ

พิพิธภัณฑ์เก็บของเก่า คัมภีร์ใบลาน รวมเงินบูรณะปฏิสังขรณ์ทุกรายการเป็นเงิน ๙,๒๓๙,๐๖๓ บาท

               ปี พ.ศ.๒๕๓๓-๒๕๓๖ เป็นประธานดำเนินการจัดหาทุนก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธโรงพยาบาล

สระบุรี กว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๒๘ เมตร สูง ๔ ชั้น รวมเงินค่าก่อสร้าง ๓๒,๗๕๐,๐๐๐ บาท (สามสิบสองล้าน

เจ็ดแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) นับว่าเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่

               พระราชเมธากร(พระมหาทองย้อย โชติวโร) เป็นพระเถระที่มีจริยวัตรงดงาม ปฏิบัติตามพระธรรม

วินัยอย่างเคร่งครัด และเป็นพระนักพัฒนาที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เน้นการศึกษา การพัฒนาคนเป็นลำดับแรก

และได้ปรับปรุงพัฒนาปฏิสังขรณ์วัดศรีบุรีรตนารามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ได้สร้างอาคารสถานที่สาธารณะ

ประโยชน์ คิดเป็นเงินมูลค่า ๔๔,๗๖๑,๖๔๓ บาท (สี่สิบสี่ล้านเจ็ดแสนหกหมื่นหนึ่งพันหกร้อยสี่สิบสามบาท

ถ้วน) จนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ได้แผ่เมตตาบริการช่วยเหลือสังคมตลอดมา พัฒนาวัดศรีบุรีรตนาราม

ให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง กรมการศาสนา ปี พ.ศ.๒๕๓๔ ได้ให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น ปี

พ.ศ.๒๕๓๕ และท่านได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประเภทส่งเสริม

และอนุรักษ์วัฒนธรรมมรดกไทย ปี พ.ศ.๒๕๔๐ ได้เข้ารับพระราชทานรางวัล เสาเสมาธรรมจักร จากสมเด็จพระ

เทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๐ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง จึงควร

ประกาศเกียรติคุณท่านสืบไป

                    ลำดับสมณศักดิ์ในงานด้านปกครองสงฆ์

                    พระราชเมธากร ดำรงตำแหน่งประธานอุปถัมภ์และที่ปรึกษาฝ่ายสงฆ์ โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดศรี

บุรีรตนาราม) สถานะเดิม ชื่อ นายทองย้อย เพชรศรี เกิดเมื่อวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๔๗๓

บิดา นายแป้น มารดา นางจู บ้านเลขที่ ๕ หมู่ ๙ ตำบลหนองไม้ซุง อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๔ ณ วัดผดุงธรรม ตำบลระโสม อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรี

อยุธยา สมณศักดิ์ พ.ศ.๒๕๑๙ เป็นพระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะอำเภอชั้นเอกที่ "พระครูศรีรัตนโสภณ"

พ.ศ.๒๕๓๐ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอกที่ "พระครูบุรีสราภิรักษ์" พ.ศ.๒๕๓๕ เป็นพระครู

สัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษในราชทินนามเดิม พ.ศ.๒๕๔๓ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ "พระสิริธรรม

มุนี" สถานะภาพปัจจุบัน พ.ศ.๒๕๔๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ "พระราช

เมธากร สุนทรธรรมสิทธิ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี"


                การประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 8/2553 วันศุกร์ ที่ 9 เมษายน 2553

                                               http://www.phrathai.net/node/2826?page=5

[ธัมมะวังโส]

อนุโมทนาด้วย กับ ประวัติ พระราชเมธากร ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ของพระอาจารย์ด้วย

ที่จริงประวัติ พระอุปัชฌาย์ นั้นก็รู้ยังไม่มาก วันนี้รู้ได้ละ้เอียด เพราะคุณธรรมธวัช นี่เอง

สาธุ สาธุ สาธุ
 

[bangsan]

 

[ban]

พระอุปัชฌาย์ ของพระอาจารย์

ผมพึ่งทราบนะครับ ว่า รองเจ้าคณะจังหวัดเป็นอุปัชฌาย์ ของพระอาจารย์

ที่จริงเว็บ มัชฌิมา ยังขาดการนำเสนอประวัติ พระอาจารย์สนธยา อยู่นะครับ

 

[บุญเอก]

ได้รู้เรื่อง วัดในสระบุรี ดีครับแถมกำหนดเส้นทาง ไปไหว้พระ 9 วัดได้ด้วย

ผมไปอยุธยาหลายครั้งแล้ว รอบนี้กำลังวางแผนไปสระบุรี ครับ
 

[kittisak]

เป็นข้อมูลที่ดีมากครับ ผมมาเที่ยวสระบุรี จะได้ไหว้พระ 9 วัด ครบ

 

[vuticham333]

อยากไปทำบุญ

[hope]

ขออภัย ขอแนะนำแบบชาวเกาะหมุย ครับ
ถ้าเราเดินทางไปที่สระบุรี จากกรุงเทพ ก็จะผ่านเส้นทางวัดที่ควรจะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำจังหวัดสระบุรี ครับ

1. เริ่มต้นด้วย วัดพระพุทธฉาย อยู่ก่อนถึงสระบุรี 6 ก.ม.ถัดจาก ร.ร.นานาชาติ ถ้าขับไปเส้นบายพาสก็ได้ครับ
2. เลี้ยวซ้ายที่ สี่แยกไฟแดงตรงสถานีตำรวจ ไปหน้าศาลากลาง เข้าไปวัดศาลาแดง เพื่อกราบไหว้ พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ
3. เลี้ยวขวา ขับข้ามไฟแพง ไปฝั่งตลาด ประมาณ 1 ก.ม. ไปที่วัดศรีบุรีรตนาราม ไปกราบไหว้ หลวงพ่อพุทโธ
4. เลี้ยวขวากับมา แล้วเลี้ยวซ้าย ที่สี่แยกไฟแดง ขับไปเจอสามแยกไฟแดง รพ.สระบุรี เลี้ยวซ้ายไป รพ. ขับตรงไป 1.2 กม. ถึงวัดแก่งขนุน เข้าไปกราบไหว้ หลวงพ่อเมตตามหาสิทธิโชค
5. เลี้ยวขวาออกจากวัดไป เส้นบายพาสไปลพบุรี ผ่านวัดหน้าพระลาน แวะเข้าไปกราบหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ วัดเกจิหลวงปู่ศรี
6. ตรงต่อไป วัดพระพุทธบาทวรมหาวิหาร กราบไหว้รอยพระพุทธบาท
7. ขากลับ ก็แวะไปวัดถ้ำนารายณ์ วัดเขาวง
8. เลี้ยวขวา ไปเจอสี่แยกไฟแดงอีกครั้งให้ขับแล้วเลี้ยวซ้าย ไปเสาไห้ ในเส้นทาง บ้านยาง ปากบาง ให้แวะไปวัดอัมพวัน กราบศพหลวงพ่อย้อย
9. ขับเลยอีกประมาณ 3 ก.ม.ก็แวะวัด พะเยาว์ กราบไหว้พระพุทธรูปทองคำ
ขับรถ ข้ามสะพานแล้วเลี้ยวซ้าย ไปเจอสี่แยกบายพาส กรุงเทพครับ


นี่เป็นเ้ส้นทางแนะนำที่ผมได้ใช้ เดินทางมาแล้วครับสามารถได้กราบสิ่งศักดิื์สิทธิ์ที่สระบุรี ได้ในเวลา 1 วันครับAeva Debug: 0.0005 seconds.

นึกภาพไม่ออกครับ กลับเลี้ยวซ้าย เลี้ยงขวา ลงแผนที่เลยได้หรือไม่ครับ สนใจไปนะครับ