แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย ladyEdnaMode และ คลิปรายการเจาะข่าวเด่น ช่อง 3
ประเด็น ร้อนในวงการศาสนาขณะนี้คงไม่พ้นเรื่องที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก กรณีที่มีคลิปแม่ชีทศพร แม่ชีชื่อดังแห่งวัดพิชยญาติการามวรวิหาร ได้แนะนำญาติโยมผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาปรึกษาในวัดให้ไปนอนกับเด็กหนุ่ม 2 ครั้ง เพื่อแก้กรรมในอดีตให้หมดไป ซ้ำยังให้เด็กหนุ่มคนดังกล่าวเข้ามาจับแก้ม แสดงพฤติกรรมชู้สาวต่อหน้าธารกำนัลที่มาฟังธรรมจากแม่ชีเป็นจำนวนมาก แต่ทุกคนที่นั่งฟังธรรมอยู่กลับหัวเราะเห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน นอกจากนี้ แม่ชีทศพร ยังได้แนะนำลูกศิษย์คนอื่น ๆ ที่มาฟังธรรมในวัดให้แก้กรรมในวิธีต่าง ๆ ซึ่งวิธีส่วนใหญ่ที่แม่ชีทศพรแนะนำกลับดูส่อไปถึงเรื่องทางเพศซึ่งดูไม่ สมควรอย่างมาก จนทำให้พุทธศาสนิกชนหลายคนที่เห็นคลิปดังกล่าวถึงกับทนไม่ไหวร้องเรียนไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ จึงได้เดินทางมาพบแม่ชีทศพร เพื่อสอบถาม เพราะเห็นว่าสิ่งที่แม่ชีทศพรพูดกลางที่สาธารณะเช่นนี้เป็นเรื่องที่ผิดหลัก ศาสนา การบอกให้ผู้หญิงไปนอนกับผู้ชาย ดูไม่ใช่การแก้กรรม แต่ยิ่งเป็นการเพิ่มกรรมมากกว่า จึงต้องการให้แม่ชีทศพรชี้แจงเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ แม่ชีทศพร ได้ชี้แจงว่า แต่ละวันมีคนมาปฏิบัติธรรมร่วมพันคน ซึ่งแม่ชีก็ได้สอนเรื่องกฎแห่งกรรม สอนให้ญาติโยมรักษาศีล ให้ทานมาถึง 14 ปีเต็ม และการที่พูดเช่นนี้ก็ไม่ได้มีเจตนาอื่น แต่เป็นการสอนระดับชาวบ้านจึงต้องพูดภาษาเช่นนี้ ทั้งนี้การแก้กรรมอาจทำไมได้ แต่เมื่อมาเปิดกรรมจะช่วยให้สบายใจขึ้นระดับหนึ่ง และยอมรับว่า ได้พูดเรื่องที่ให้ญาติโยมไปนอนกับผู้ชายแก้กรรมจริง เพราะผู้หญิงคนนี้วจีกรรมที่ไปว่าผู้ใหญ่ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ไปนอนกับผู้ชายจริง เพียงแต่บอกให้ลูกศิษย์ผู้ชายมาอยู่ใกล้ ๆ ญาติโยมที่มีกรรม และให้จับมือ กอด เท่านั้นเอง และในความจริงเขาก็ไม่ได้ไปนอนด้วยกัน แต่ถ้าหากสังคมกังวลเรื่องคำสอนของแม่ชี ก็รับปากว่าจะนำไปปรับปรุง
แม่ชีทศพร กล่าวต่อว่า สำหรับคลิปคำสอนต่าง ๆ ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูปกว่า 300 ตอน แม่ชีตัดต่อเอง เพื่อบอกเล่าชีวิตและความทุกข์ของชาวบ้านที่มายังวัดพิชยญาติการาม จึงอยากให้มองหลาย ๆ มุม เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานเพื่อพระพุทธศาสนามาโดยตลอด และทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเจตนาให้ใครเสียหาย ซึ่งถ้าหากแม่ชีพูดสิ่งใดผิดพลาดไป กระทบกระเทือนต่อพระพุทธศาสนา ทำให้ศาสนาเสื่อมเสียก็ยินดีออกจากศาสนา แต่ขอยืนยันว่า แม่ชีรักพระรัตนตรัยยิ่งชีวิต ด้านนายนิพิฏฐ์ กล่าวภายหลังฟังคำชี้แจงของแม่ชีทศพรว่า ตนได้ขอให้แม่ชีทศพรปรับวิธีสอน และการใช้คำ เพราะดูหมิ่นเหม่ สื่อไปทางลามกอนาจาร และขัดต่อหลักศาสนา ซึ่งหากยังเกิดขึ้นอีกก็ต้องหาดำเนินการลงโทษตามหลักต่อไป
ขณะที่พระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นหากมองจากข้อเท็จจริงแล้วถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา ซึ่งจะได้ตักเตือนแม่ชีทศพรให้ระมัดระวังคำพูดต่อไป แต่เชื่อว่าเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการขาดความยั้งคิดในการพูดจากับคน ทั่วไป ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ตนได้กราบนมัสการพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร และได้หารือเรื่องนี้แล้ว ซึ่งเจ้าอาวาสได้ไปว่ากล่าวตักเตือนแม่ชีทศพรแล้ว ซึ่งแม่ชีก็ยอมรับผิด และขอโทษ ทั้งนี้ยอมรับว่า พฤติกรรมของแม่ชีไม่เหมาะสม เพราะไม่ใช่เรื่องของพระพุทธศาสนา แต่ยอมรับว่า มีคนไทยจำนวนมากยังมีความเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่ ซึ่งการกระทำของแม่ชี เชื่อว่า เป็นกลอุบายที่ทำให้คนที่มีความทุกข์ ได้สบายใจและหันไปทำความดี
ส่วนการที่แม่ชีแนะนำหญิงสาวคนหนึ่งนำหอยไปติดที่ประตู เชื่อว่าเป็นการแก้เคล็ด แต่ยอมรับว่า วิธีการสอนของแม่ชีหมิ่นเหม่ในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อแม่ชีทศพรขอโทษแล้วก็ให้อภัยได้ เพราะที่ผ่านมา แม่ชีทศพรก็ได้สนับสนุนงานในด้านของพระพุทธศาสนาไว้มากมาย สำหรับแม่ชีทศพร มีชื่อเดิมก่อนบวชว่า มาลินี ชัยปกรณ์ ปัจจุบันอายุ 53 ปี ได้บวชชีพราหมณ์อยู่ที่วัดพิชยญาติการามวรวิหาร และมีญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธาแวะเวียนมาฟังธรรมจากแม่ชีทศพรที่วัดอยู่เป็น ประจำ โดยเชื่อว่า แม่ชีสามารถสแกนกรรมและแก้กรรมเก่าของตัวเองให้ได้ ซึ่งเพราะเรื่องการแก้กรรมนี่เอง ทำให้แม่ชีทศพรมีผลงานหนังสือเกี่ยวกับเรื่องสแกนกรรมหลายเล่ม
ที่มา http://www.pilok4u.com/read.php?tid=3793