จริง ครับ ถ้าจิตเราเจริญถึงขั้นอุปจาระสมาธิ ขึ้นไป ก็สามารถเข้า สู่สภาวะ กายทิพย์ ได้ครับ
เมื่อเราเข้าสู่ สภาวะ กายทิพย์ แล้ว ก็จะมีความสามารถเห็นในสิ่งที่คนเห็นเฉพาะ กายหยาบ ไม่เห็นได้ครับ
ขออธิบาย สภาวะ กายทิพย์ ขั้นหยาบให้ฟังดัีงนี้ นะครับ ( ผิดถูกอย่างไร ก็ขออภัย พระอาจารย์ ด้วยนะครับ )
กายทิพย์ หยาบ นั้นเป็นสภาวะ ที่สัมผัสได้ โดยความรู้สึก เช่น เวลาคนโกรธอยู่ เราสามารถ สัมผัสกายทิพย์หยาบของคนที่โกรธได้ ด้วยใจทันที ถึงไม่มองสีหน้า ท่าทาง เราก็จะรู้ว่า คุกรุ่นไปด้วยรังสี อันนี้จัดเป็นกายทิพย์ หยาบ ครับ
กายทิพย์ ขั้นกลาง เป็นสภาวะสัมผัสที่รุนแรงว่า การแสดงอารมณ์ เป็นกายทิพย์ ของธรรมชาติ เช่น ความสงบ ความสงัด ความบริสุทธิ์ เป็นต้นครับ
กายทิพย์ ละเอียด เป็นสภาวะที่เปิดมิติอีกมิติ ที่เหนือกว่า จิตของคนทั่วไป จะสัมผัสได้ผู้ที่สัมผัสสภาวะทิพย์ มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับความปรารถนา แต่สำหรับ กรรมฐาน แล้วแค่ อุปจาระสมาธิ ที่ได้สำเร็จพระสุขสมาธิ ก็สามารถสัมผัส กายทิพย์ ได้เช่นกันครับ อันนี้อธิบายอยากอยู่ครับ
ดังนั้นเมื่อจิตเราสงบ และ มีบารมีธรรมตรงส่วนนี้ ก็จะสามารถสัมผัส กายทิพย์ ได้ครับ
แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกท่านนะครับ ต้องมีบารมีทางเจโตวิมุตติ ด้วยครับ
ดังนั้น คนอยากเห็นผี ก็ไม่ใช่จะเห็นได้ ส่วนผีอยาก ให้คนเห็น ก็ใช่ว่า คนจะเห็นได้
ทั้งสองฝ่ายต้องมีคลื่นที่ตรงกันด้วยครับ ถึงจะเห็นกันได้ครับ
อธิบาย เหมือน สัญญาณโทรศัพท์มือถือไงละครับ ต้องมีคลื่นตรงกันครับถึงจะใช้ได้ครับ
ทั้ง ๆ ที่ในอากาศ ความว่าง นั้นมีมิติ มีข้อความ มีภาพ แสง เสียง เก็บอยู่เป็นมิติ เป็นชั้น อยู่ครับ
เพียงแต่เราไม่มีวิธีการถอดข้อความนั้นออกมาได้
