พิมพ์

[ปอง]

หลังจากท่านปฏิบัติธรรมแล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนปฏิบัติบ้างหรือไม่ครับ

เช่น ชีวิตดีขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น หรือคิดว่าทำอะไรก็ประสบผลสำเร็จไปหมด หรือได้อะไรที่คิดว่าพิเศษกว่าคนอื่น อาจจะมีเซ้นท์ สัมผัสพิเศษประมาณนี้  ขอคนที่ปฏิบัติจริงๆไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มหรือหลายปีแล้ว มาช่วยเล่าหน่อยว่าชีวิตของท่าน แตกต่างจากก่อนปฏิบัติอย่างไรบ้างครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับกระผมและเพื่อนๆที่เริ่มปฏิบัติ เผื่อเข้ามาอ่านเจอจะได้รู้ว่าหลายคนปฏิบัติได้ผลดีจริงๆครับ
โดยส่วนตัว สิ่งที่เกิดขึ้นคือเวลาจะุฟุ้งซ่าน จะหยุดคิดได้ทันทีครับ หรือถ้าจะคิดต่อก็รู้ว่ากำลังคิด ดีหรือไม่ดีก็รู้ แล้วก็เคยนั่งสมาธิจนเหมือนตัวหายไป อาจจะเพลินอยู่ จนรู้สึกว่ามันมหัศจรรย์มากครับ ได้แค่นี้ครับแต่ก็ชอบที่รู้ทันว่าเรากำลังจะคิดนะ




 

[นิรมิต]

เปลี่ยนแปลงมากคะ

 เรื่องแรก ความขี้เหนียวในทานและบุญ เมื่อก่อนเป็นคนทำบุญยากคะ เดี๋ยวนี้แค่รู้ข่าวบุญก็จะร่วมทำทันทีเลยคะ

 เรื่องที่ สอง นอนหลับง่ายไม่เครียด โดยเฉพาะถ้าได้สวดมนต์ก่อนนอนแล้วฝันดีจริง ๆ คะ

 สองเรื่องก่อนนะคะ

 

[jittree]

หลังจากท่านปฏิบัติธรรมแล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนปฏิบัติบ้างหรือไม่ครับ

จากประสบการณ์ตัวเองเลยนะคะ ยังคิดเสียดายเวลาที่เราปล่อยให้ผ่านไปเสียนาน มาพบธรรมะตอนนี้ถ้ารู้ว่ามีดีอย่างนี้คงปฏิบัตินานแล้ว สิ่งที่ได้รับ คือความสุขที่ไม่เหมือนสุขที่เคยมี เป็นสุขที่ยั่งยืน อยู่นาน ไม่จางหาย จิตใจโล่ง โปร่งสบาย คิดได้กระจ่างรอบครอบ มีสติ สมาธิดี ความจำดี ไม่หลงลืม  ทำงานไม่ผิดพลาด อารมณ์ดี ผู้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วย จัดการกับปัญหาได้ราบรื่น อุปสรรคต่างๆ แทบไม่มี มีคนช่วยเหลือมากขึ้น การงานดี สามารถยิ้มได้เมื่อมีคนว่า หรืออารมณ์เสียใส่เรา  รับได้กับทุกสถานการณ์  สุขภาพจิตดี แจ่มใส หน้าตาสดใสเบิกบาน(คนอื่นบอกค่ะ) หลับง่าย ตื่นแล้วสดชื่นไม่งัวเงีย และอื่นๆอีกขอแบ่งปันเท่านี้ก่อนนะคะ

[whuchi]

มีครับ ที่แน่นอน จาก ละอ่อน ที่นั่งกรรมฐานได้ไม่เกิน 15 นาที ทุกวันนี้ผมนั่งกรรมฐาน ได้ มากกว่า 3 ชม.ครับ

ภูมิใจครับ ที่สามารถเดินจิตเป็นสมาธิ ที่สำคัญ เวลานอนหลับมับจะฝันดี

บางครั้งฝันเหมือนเป็นเหตุการณ์ ล่วงหน้า เลยครับ

รู้ได้ด้วยตนเอง หลายประการครับ

อยากให้ทุกคน ปฏิบัติต่อไปนะครับ ถ้าได้กรรมฐาน ที่ถูกแ้ล้ว โดยเฉพาะกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

ครูอาจารย์ ก็ไม่ใช่ จะหามาสอนกันง่าย ๆ อย่างเมื่อก่อนนะครับ ถ้าไม่ไปที่วัดพลับ แล้วละก็ หายากครับ

 

[konsrilom]

ดิฉัน ค้าขายอยู่ที่ สีลม.... ดินแดน ระอุ ทางการเมือง

เคยทุกข์ใจ เรื่องทำมาหากิน

เคยทุกข์ใจ เพราะคนไทยด้วยกัน ทำร้ายกัน

วันนี้ใช้ธรรมะ มากขึ้นแผ่เมตตามากขึ้น ปลงได้ดีกว่า เมื่อก่อนคะ

ถึงแม้โลกจะโหดร้าย เพราะการกระทำของคนไม่ดีบ้าง แต่ ก็คิดว่าสักวันหนึ่งผลบุญที่ทำก็จะช่วยให้ใจ เราได้สุข

ตามที่หวัง นี่ก็เป็นผลจากการปฏิบัติ


 

[ธุลีธวัช (chai173)]

หลังจากท่านปฏิบัติธรรมแล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนปฏิบัติบ้างหรือไม่ครับ

แต่เดิมทีนั้นผมมีนิสัยแย่ๆพอแจงได้ดังนี้ คือ
- ขี้หงุดหงิด โกรธง่าย แต่เก็บอารมณ์
- ไม่สพอารมณ์ไม่พูด เดินหนีอย่างเดียว
- ท้าทายวาสนาบารมีคน ด้วยถือดี
- ชอบผูกเวร อาฆาต
- รักใครไม่เป็น (โดยเฉพาะผู้หญิง/คือไม่ชอบง้อรำคาญจริตผู้หญิง)
- ชอบคิดฟุ้งซ่าน

หากพิจารณาแล้วอาจจะดูไม่น่าคบค้าเสวนาด้วยแน่ แต่ลึกๆนั้นมีข้อต่างอยู่ครับ พอแจงได้ดังนี้ คือ
- เป็นคนรู้คุณคน จำไม่ลืม (แม้น้ำใจเล็กน้อยก็ต้องตอบแทน)
- อดทน รักหน้าที่ ชอบทุ่มเท (จริงจัง)
- เคารพผู้อาวุโส
- มีใจรักมั่นคง (มีสัจจะกับตัวเอง)
- รักสงบ (ชอบปลีกวิเวกภาวนา)
- เป็นคนตรง (ซื่อไม่ยอมคด)
- ชอบสละ (ไม่ชอบเอาเปรี่ยบใครอื่น)

นับเริ่มแต่ขวนขวายเจริญภาวนาสมาธิแนวพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ (สายหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน วัดราชสิทธาราม/วัดพลับ) อุปนิสัยลึกๆมีเปลี่ยนไปบ้าง กล่าวคือ พิจารณาเห็นทุกข์ได้ไว ใจผละวางได้เร็ว เบื่อหน่ายไม่เห็นสาระแก่นสารใดใดในวิถีปุถุชน อยากก้าวเดินไปในวิถีโยคาวจรมากกว่าครองเรือน (การหมกจมอยู่กับกาม) ปล่อยวางกระตือรือร้นอยากสร้างแต่บารมีให้ยิ่งๆขึ้น แลโลกเห็นคนมีแต่ทุศีลแล้วใจหมองเอามากๆ ครับ 

[sakda]

เปลี่ยนแปลงสิครับ แต่จะเปลี่ยนแปลง มากน้อยผมสังเกตที่ตนเองนะครับ

1.ไม่ดื่มสุรา และเสพสิ่งเสพติด มึนเมา ( มีศีลข้อ 5 ชัวร์ )

2.ไม่โกงกิน ไม่คอรัปชั่น ไม่ขโมย ไม่ลักทรัพย์ ( เมื่อก่อนบอกว่า มีรับใต้โต๊ะบ้างครับ )

3. ไม่มีกิ๊กครับ รักเดียว ใจเดียว และไม่อยากมีเลยครับ ( ชักเบื่อเมีย อยากจะหนีไปบวช ให้รู้แล้ว รู้รอด)

4. มีความละอายใจ ที่ต้องโกหก ครับ เมื่อก่อนโกหก แบบหน้าตายเลยครับ แต่ตอนนี้เวลาโกหก รู้สึกละอายใจครับ เพราะบางเรื่องพูดจริงก็ไม่ได้

    เรื่องจริงนะครับ เมื่อผมโดนเมียถามว่า ฉันยังสวยอยู่หรือไม่ แหมถ้าตอบตรง ๆ ก็ต้องตอบว่า แ่ก่แล้ว อ้วนอีกต่างหาก จะสวยยังไงละจ๊ะ ถ้าพูดอย่างนี้ พุูดจริง แต่เป็นเรื่องครับ อาจจะต้องทานกับข้าว ฝีมือตนเองครับเพราะความงอนของเธอ ดังนั้น จึงต้องโกหกไปว่า ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ เห็นไหมครับ เรื่องโกหกยังมีความจำเป็นในสังคม

    อย่างแม่ ผมถามว่า งานเป็นอย่างไรบ้างลูก ลองตอบไปตามจริงครั้งหนึ่งครับว่า งานช่วงนี้แย่ครับ โดนเจ้านายลูกน้องกลั่นแกล้ง ให้โยกย้าย เป็นเรื่องครับ แม่นอนไม่หลับ พยายามวิ่งเต้นให้เราไม่โยกย้าย ดังนั้นพอโดนถามอีก ก็โกหกไปว่า ไม่มีอะไรครับ กว่าแม่จะรู้ก็โดนย้ายมาอยู่ที่ลำปางซะแล้ว จาก กทม.


    5 5 5 5 เล่าให้ฟังไว้ปนคำเบา ๆ ครับ

  อย่างไรเสีย เมื่อเราปฏิบัติธรรม ก็ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง อยู่แล้วครับ

  สาธุ ทุกท่าน ที่ทนอ่านมาถึงตรงนี้ เอวังก็มีด้วยประการ ฉะนี้

 

[sompong]

หลังจากปฏิบัิติภาวนา ทำให้มองเห็นสาระการมีชีิวิตอยู่ขึ้นมากครับ

ว่า ชีวิตเรานี้ มีอะไรเป็นแก่นสาร ครับ

  ในเมื่อเรา ต้อง วน เวียน อยู่ักับ เรื่อง กิน กาม เกียรติ ตลอดเวลา่

  ทำให้เรารู้จัก วาง ภาระ อันหนักได้ครับ