น้ำท่วมครั้งนี้เห็นแก่นธรรม แต่บางครั้งยังไม่เจอแก่นธรรม
เพราะเหตุอะไรจึงได้พูดเช่นนี้
ประการแรก
๑ การให้ทานบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมยังเคลื่อนจากธรรมของพระสัมมา
๒ การรักษากายวาจาในขณะประสบภัยพิบัติ ยังคิดว่าคนรวยเอาเปรียบคนจน ยังมีเขามีเรา
๓ จิตใจไม่มีวันสงบเพราะมองข้ามคุณค่าของการให้ทานและรักษากายวาจาของตน
ประการที่๒
๑ ตอนนี้หลายพื้นที่ทางภาคกลางกำลังประสบภัยพิบัติมีใครบ้างไหมที่ใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส
๒ เมื่อผู้นำผู้มีอำนาจสามารถรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าเพราะเหตุอะไรเมื่องไทยจึงประสบภ้ย
๓ ในอนาคต ลูกหลานเหลน คงได้รับความอุ่นใจว่าประวัติศาสตร์คงไม่ซ้ำลอยเดิมแน่นอน
๔ ประวัติศาสตร์จะจารึกไว้ให้คนทั้งโลกรู้ว่าเราแก้ปัญหาให้กับตนเองได้ ยิ้มได้เมื่อภัยมา
ธรรมะนั้นมีหลากหลายตามจริตของคนแต่ที่พระพุทธเจ้าแสดงมากที่สุดก็คือ
อนุปุพพีกถา
ทาน การให้อย่างฉลียวฉลาด
ศีล การควบคุมกายวาจาให้ปกติ
สวรรค์ รู้จักคุณค่าของศีลทาน
กามาทีนวะ ของดีมีประโยชน์หากไม่รู้จักใช้จะเกิดโทษได้ภายหลัง
เนกขัมมะ ของดีมีประโยชน์มีคุณอันเลิศหรูแต่เป็นเพียงของนอกกายเท่านั้น
เมื่อผู้ใดเข้าใจธรรมะ ๕ ข้อข้างต้นดีแล้ว พระองค์จึงแสดงสัจจธรรมล้วนๆ เรียกว่า
ทุกข์ ควรกำหนดรู้
สมุทัย ควรกำหนดละ
นิโรจน์ ควรทำให้แจ้ง
มรรค ควรเจริญให้ถึงพร้อม

อ้างอิงจากดวงใจน้อยๆ
อธิบายตามความเข้าใจของกระผม หากผิดพลาดประการใดขอน้อมรับด้วยเกล้าทุกประการ
สุดท้ายนี้ผู้รู้ท่านใดที่สามารถอธิบายธรรมโดยใช้ประสบการณ์ปัจจุบันมาเสนอ ขอเชิญนะครับ