ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบความเห็นว่า "กรณีที่ลูก ถูกพ่อแม่ตัดความสัมพันธ์การเป็นพ่อแม่ลูกกันด้วย"  (อ่าน 12818 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

sinjai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 144
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากทราบความเห็นว่า "กรณีที่ลูก ถูกพ่อแม่ตัดความสัมพันธ์การเป็นพ่อแม่ลูกกันด้วยเรื่องที่ การใช้ชีิวิตคู่"

มันเหมือนละคร น้ำเน่าที่มีฉายอยู่ ที่จริงก็ไม่เคยคิดว่าจะมีเรื่องจริง ที่จะมี หนุ่มมีฐานะดี ตระกูลรวย แต่แล้วก็ต้องออกจากตระกูล มาอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่เขารัก โดยตัดชื่อออกจากกองมรดก และด้วยประกาศิต จากพ่อแม่เชื่อสายจีน ว่า ไม่ต้องมากราบ มาไหว้กันอีก หาก ลื้อ ยังอยู่กับ อีนั่น

    อันนี้เป็นชีวิตของเพื่อนชาย ที่ทำงานร่วมกันกับ สินจัย พอได้ฟังแล้ว รู้สึกว่าเรื่องน้ำเน่าอย่างนี้ยังมีอยู่อีกหรือในปัจจุบัน คิดว่ามีอยู่แต่ในละคร เรื่องจริง ยุค 2012 แล้วไม่น่าจะมี นะจีะ

    คำถาม คือ
    1. การที่ลูก ถูกตัด อย่างนี้จัดว่าเป็นคนอกตัญญู หรือ ไม่ ? เพราะปัจจุบันเพื่อนคนนี้เริ่มคิดว่าตนเองเป็นคนอกตัญญู ขนาดพ่อป่วยจนเสียไป ทุกคนก็ยังไม่อภัย และยังกล่าวว่า ตนเองเป็นเหตุให้พ่อ ตรอมใจตาย การกระทำเยี่ยงนี้จัดเป็น ความอกตัญญูหรือไม่คะ

   2.การภาวนา จะช่วยอะไร เขาได้หรือไม่ ? หากว่าการกระทำของเขาเป็น อนันตริยกรรมทางอ้อม

    สองคำถามที่คาใจ คะ

   ทุกท่านช่วยตอบหน่อยนะคะ เพราะไม่กล้าฟันธงลงไปให้ได้ คะในเบื้องต้น

   :coffee2: :49: :c017:
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ตอบข้อที่ 1. บุคคคลผู้อยู่ในฐานะอันเรียกว่าไม่มีความกตัญญูนั้น คือ บุคคลผู้ไม่เคารพนอบน้อนบุพการี เป็นบุคคลผู้เว้นจากการเอื้อเฟื้ออนุเคราะห์ แบ่งปัน เว้นจากการให้อันประกอบด้วยประโยชน์สุขแก่บุพการี เป็นผู้ดูแคลนและปล่อยละเลยซึ่งคุณแห่งบุพการีนั้น มีความดูดายทำร้ายตบตี พ่อ-แม่ เป็นต้น
ทีนี้เรามาดูกันว่า ที่พ่อของเพื่อคุณนั้นเสียชีวิตจริงๆเพราะสิ่งใด เพราะเป็นโรครุมเร้า เพราะสภาพร่างกายแปรเปลี่ยนไป หรือ เพราะสภาพจิตใจจากผลกระทบที่เพื่อนคุณนั้นได้ทำลงไป
1.1 หากกล่าวด้วยความเป็นโรครุมเร้า สภาพร่างกายเสื่อมตามกาลเวลานั้น เป็นเรื่องปกติของธรรม อันมีความไม่เที่ยง มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา แล้วก็สูญสลายดับไปเป้นปกติธรรม ไม่เกี่ยวกับเพื่อคุณ
1.2 หากกล่าวด้วยเรื่องผลกระทบจากใจที่เพื่อคุณกระทำนั้นเป็นส่วนกระตุ้นให้เป็นไป ตรงนี้ต้องแยกประเด็นต่างๆก่อนว่า..
1.2.1. หากท่านมีเรื่องอื่นที่ไม่สบายใจในส่วนอื่นเป็นเหตุกระตุ้นโรคทางกาย ท่านจะเป็นเช่นนี้ไหมครับ ตามธรรมชาติก็ต้องเป็นเช่นกันใช่ไหมครับ
1.2.2. หากว่าเกิดจากการแก่งแย่งชิงดีเอามรดกกันในครอบครัวจนทำให้ท่านไม่สบายใจว่า ลูกทั้งหลาย..พ่อเลี้ยงมาด้วยความรักทั้งหมดแต่กลับไม่รักใคร่กลมเกลียวอนุเคราะห์เอื้อเฟื้อกัน เหตุนี้ผู้เป็นพ่อก็ย่อมเสียใจได้ กระตุ้นให้โรคร้ายเกิดขึ้นได้ใช่ไหมครับ
1.2.3. หากว่าเพื่อนคุณพอหนีไปแล้ว จิตใจของผู้เป็นพ่อ-แม่ ไม่มีผู้ใดตัดลูกขาดหรอกครับ ย่อมรักใคร่อยากให้ลูกได้ดีตามที่ตนเองพอใจต้องการ จึงเป็นการตีกรอบให้ลูกไปนั่นเอง หากเพื่อนคุณไม่หนีหายไปเลย ยังคอยกลับมาดูแลเอาใจใส่ โทรหาถามสาระทุกข์สุขดิบ เอื้อเฟื้ออนุเคราะห์แก่ท่านเสมอๆไม่ขาดหายไป แม้ไม่ประจำทุกวัน แต่ทำอยู่เนืองๆ พูดคุยด้วยความรักบุพการี มีความเอื้ออนุเคราะห์ต่อบิดามารดา ถ้าทำเช่นนี้ ไม่มีทางที่พ่อจะตรอมใจเพราะเพื่อนคุณแน่นอนครับ แต่ทว่าหากไม่เป็นไปตามนี้ คือ เพื่อนคุณหนีหายไปเลย ไม่ได้ใส่ใจว่าท่านจะอยู่จะเป็นอย่างไร ก็เป็นไปได้สูงที่จะทำให้พ่อตรอมใจเพราะห่วงและคิดถึงลูก กรรมที่เกิดจากสิ่งนี้นั้นเป็นการเว้นจากความกตัญญูต่อบิดามารดา หรือ บุพการีทั้งหลาย
- อย่างไรก้อตามแต่ เราไม่สามารถบอกได้ว่าที่พ่อเพื่อคุณเสียไปนั้นเพราะจิตใจที่มีต่อเพื่อนคุณหรือสิ่งอื่นๆ เพราะคนที่รู้ดีคือพ่อของเขาเอง
- มีเรื่องพุทธประวัติตอนหนึ่งที่ผมอยากจะกล่าวให้ฟังว่า ตอนพระพุทธเจ้าท่านหนีจากวังออกบวช พระบิดาท่านก็หาต้องการไม่ มีความเสียใจ ที่ท่านหนีไปเช่นกัน ซ้ำยังนำพระราหุลออกบวชเป็นสามเณรคนแรกอีก จึงไม่มีทายาทสืบต่อราชสมบัติเลย พระบิดาก็ทรงทรมานอัดอั้นคับแค้นใจตัดลูกตัดพ่อเช่นกัน แต่พระตถาคตเมื่อท่านได้ตรัสรู้แล้ว ท่านก็กลับมาแสดงธรรมจนพระบิดาบรรลุธรรมก่อนสิ้นใจ ทีนี้ลองพิจารณาดูครับ ผมจึงกล่าวว่าที่พ่อของเพื่อนคุณนั้นเป็นจริงๆคือสิ่งใด และ เพื่อนคุณมีความเอื้ออนุเคราะห์ต่อบิดาแม้หลีกตัวออกมาแล้วหรือไม่
บาปกรรมนั้น คือ ผลกระทบจากการกระทำใดๆแล้วทำให้เรามีความขุ่นข้องขัดเคืองใจ หมองมัวใจ ฝืดเคือง ดิ้นรน ร้อนใจ อัดอั้น-คับแค้นกายและใจ

ตอบข้อที่ 2. อันดับแรกบอกก่อนนะครับว่า
- บุญและบาป มันแก้กันไม่ได้ลบล้างกันไม่ได้ครับ แต่บาปและบุญสิ่งใดจะมีอาศัยเกิดแสดงผลก่อนนั้นอยู่ที่ว่าสิ่งใดมีมากกว่า ดั่งใส่เกลือ 1 เม็ดเล็กๆในน้ำ 1 แก้ว น้ำนั้นย่อมยังจืดอยู่ไม่เค็ม แต่หากใส่เกลือลงไปเรื่อยๆมากขึ้นๆน้ำนั้นย่อมมีรสเค็มฉันใด บุญบาปก็เป็นเหมือนกันฉันนั้น เกลือ 1 เม็ดที่หยดลงน้ำไปความมีฤทธิ์เป็นเกลือมันก็ไม่ได้หายไปจากน้ำนั้นใช่มั้ยครับ แต่เพราะมันน้อยกว่ามันจึงไม่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของเกลือนั้นออกมา แต่หากใส่เกลือไปเยอะๆ น้ำนั้นก็ยังเป็นน้ำอยู่ใช่ไหมครับ แต่กลับมีความเค็มของเกลือขึ้นมาแทน บาป-บุญก็เป็นเช่นนี้แล
- อนันตริยกรรมนั้นแก้ไม่ได้ครับ จนกว่าจะชดใช้กรรมนั้นจนหมดไป จึงจะล่วงพ้นไปได้ อย่างพระโมคคัลลานะเถระ ท่านถูกเมียยุยงแสร้งเป็นโจรไปปล้นพ่อแม่ตบตีพ่อแม่ ท่านก้อยังต้องรับกรรมตกนรกทุกๆชาติ ด้วยกรรมนั้นจนหมดไป ท่านจึงได้เป็นพระอรหันตสาวก
- ดังนั้นคุณก็ต้องบอกให้เพื่อนคุณเจริญปฏิบัติในธรรมให้มาก มีศีล พรหมวิหาร๔ ทาน สติ สมาธิ ภาวนา คิดดี พูดดี ทำดี จนเป็นปกตินิสัย แล้วแผ่บุญกุศลทั้งหลายนั้นให้แก่บิดาเขา จนกว่าตนเองจะหมดกรรมไป
- หากเพื่อนคุณเพียรเจริญปฏิบัติจนบรรลุโสดาบันได้ในชาตินี้ เพื่อนคุณจะไม่มีทางที่เขาจะตกนรก และ จะเป็นข้อยืนยันได้ว่า เขานั้นไม่ได้กระทำ อนันตริยกรรมอย่างแน่นอนครับ

ผมมีความรู้และปัญญาอันน้อยนิดพอจะแนะแนวทางและตอบปัญหาคุณได้เพียงเท่านี้ รบกวนดูคำตอบของครูบาอาจารย์ ท่านผู้รู้ ผู้เจริญ ท่านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์มากกว่าที่ผมแนะแนวทาง แล้วใช้แนวทางผมเป็นส่วนประกอบเพื่อนำไปให้เพื่อคุณปฏิบัตินะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 04, 2012, 02:54:49 pm โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

เท่ากับผลรวม

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +11/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 169
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คุณ Admax ใส่ใจมากในคำตอบผมอ่านแล้ว อยากจะตอบแต่ก็ยังหาคำกล่าวไม่ได้

  1. อนันตริยกรรมทางอ้อม อันนี้ พูดกันด้วยความลำบาก เราอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่ง ความตรอมใจ เป็นเรื่องที่พูดลำบาก ที่จะทำให้เสียชีิวิต แต่ ถ้า ฆ่าตัวตาย นี่น่าคิดอยู่

  2. การภาวนาก็ช่วยได้ครับ อย่างน้อย คุณจะรู้สึกดีเบื้องต้น ถึงแม้กรรมที่สร้างนั้นคนละส่วน แต่อย่าลืมว่า กรรมดี ก็ได้ผลดี กรรมชั่วก็ได้ผลชั่ว แต่เรื่องของเวลาการตอบแทนของกรรมนี้ อาจจะประมาณ และ ประเมิณกันยากว่าจะมาเวลาไหน

   :s_hi:
บันทึกการเข้า
ชีวิต นี้เพื่อพุึทธศาสน์

แพนด้า

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
กรณี ที่เป็นการตรอมใจ เพราะเสียใจเพราะลูกอย่างนี้ ถ้าเป็นความจริงก็จัดเป็นสาเหตุ แต่ไม่เป็นอนันตริยกรรม เพราะความเสียใจ เป็นเรื่องของส่วนบุคคล การฆ่าต้องลงมือด้วยกาย ไม่ใช่เพียงแค่คิด หรือ เสียใจการที่เขาตายเพราะเสียใจนั้น จัดเป็น อัตตวินิบาตกรรม ของตนเอง เพราะความเสียใจ ดีใจ เป็นเรื่องที่บุคคลสร้างขึ้นได้ด้วยตนเองแต่จะมีสาเหตุ มาจากอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับโมหะ ดังนั้น ฟันธง ว่าไม่ใช่ ปิติฆาต ครับ สบายใจส่วนนี้ก่อนแต่ปฏิเสธไม่ได้ทั้งหมด เพราะความเสียใจนั้น มีหลายสาเหตุครับ

   ส่วนการภาวนา ย่อมได้ผลการภาวนา จริง
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28906
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

   ไม่ใช่อนันตริยกรรมแน่อน และไม่อกตัญญูด้วย
   ฝ่ายชายควรปฏิบัติกรรมฐานแล้วอุทิศบุญ หรือไม่ก็บวชสักระยะหนึ่งเพื่ออุทิศบุญ
   การบวชจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ญาติทุกท่านต้องให้อภัย แต่ไม่ได้หมายถึงฝ่ายชายผิดนะครับ
   การบวชเปรียบเสมือน การพาหลานไปให้ปู่ยา่ตายายเห็นหน้า
   ต่อให้ใจแข็งขนาดไหน เห็นหน้าหลานตาดำๆแล้ว สถานการณ์ต่างๆน่าจะดีขึ้น
   เป็นกำลังใจให้ครับ
:49:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
 ตะกรุดพระยาไก่เถื่อน
สาธุด้วยจ้า  ดีใจจัง  ที่ยังเห็นคนแบบนี้อยู่  ดีใจที่ได้รู้จัก  คงได้พบเจอกันสักครั้ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 01, 2012, 10:16:01 pm โดย Mr. งังจัง »
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

เท่ากับผลรวม

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +11/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 169
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณมากครับ แต่ กรุณาส่งมอบ ถวายพระอาจารย์เพื่อให้แก่ผู้ที่ทำบุญ ช่วยเหลือเว็บนะครับ
อย่างเช่นคุณ เต้ ที่พึ่งถวาย notebook ไปอย่างนี้ครับสมควรได้รับมากกว่าผม ครับ

 :25: :25: :c017:
บันทึกการเข้า
ชีวิต นี้เพื่อพุึทธศาสน์

darkrise001

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 9
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา