การปฏิบัติธรรม ทำไมต้องแบ่งว่าเป็นกรรมฐาน นั้น กรรมฐานนี้ ครับ
การปฏิบัติธรรม นั้นไม่ได้แบ่งหรอกครับ เพราะมีหลักการเดียวกันทั้งหมด คือ ศีล สมาธิ และ ปัญญา
เป้าหมาย คือ การละสังโยชน์ ทั้ง 10 ประการ
ส่วนกรรมฐาน นั้น ต้องแบ่งออกเป็นกรรมฐาน นั้น กรรมฐานนี้ พระพุทธองค์แบ่งไว้เป็น 2 แบบครับ
1.สะมะถะกรรมฐาน มีทั้งหมด 40 กองกรรมฐาน แบ่งตามพื้นฐานของบุคคล เรียกว่า จริตทั้ง 6
2.วิปัสสนากรรมฐาน มีตั้งแต่ วิสุทธิ 7 อนุวัปัสสนา 3 วิโมกข์ 3 วิปัสสนาญาณ 9 และ 16 โพชฌงค์ 7 และ โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ
เหตุที่ต้องแบ่ง เพราะระดับบารมีของบุคคลไม่เท่ากัน อุปนิสัยไม่เหมือนกัน
พระอรหันต มีเอตทัคคะไม่เหมือนกัน หน้าตาคนจะเหมือนกัน หรือ คล้ายคลึงกัน น้อย ๆๆๆๆ มาก ๆๆๆ
การภาวนานั้น ไม่น่าจะต้องมีรูปแบบอะไร ?
ยิ่งเราภาวนา ก็ควรอยู่ในท่าไหน ๆ ก็ได้ ไม่ใ่ช่หรือครับ ?
ทำไมต้องนั่งหลับตา ภาวนาครับ ?
ความสำคัญของการภาวนา อยู่ที่การวิป้สสนา ไม่ใช่หรือครับ ?
อนุโมทนา กับคุณ ISSARAPAP ด้วยถ้าคุณสามารถเข้าถึงวิปัสสนา ขั้นสูงละสังโยชน์ได้ทั้ง 10 ประการ
ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณก็คงต้องรักษา ประเพณี แบบแผน ให้กับชนรุ่นหลังด้วย พระพุทธองค์ฺ ไม่ได้ทรงนำศีล ออกนะครับ ไม่ได้นำเอา สมาธิ ออก ไม่ได้แยกว่าต้อง ใช้ปัญญา โดยส่วนเดียว แต่ต้องมีทั้ง 3 ประการ คือ ศีล สมาธิ และ ปัญญา
สำหรับการปฎิบัติ ภาวนาต้องเิริ่มจากขั้นน้อย ไปหาขั้นสูง ครับ ถ้าก้าวกระโดดแล้วอาจจะพลาดได้ นะครับ
สาเหตุที่ต้องนั่งหลับตาภาวนาก่อนนั้น เพื่อปิดสะกัด อารมณ์ภายนอก เพื่อ ไปสู้กับอารมณ์ภายในก่อน คือก่อนที่จะชนะเหตุ ผล ภายนอก ก็ต้อง มาชนะเหตุ ผล ภายในก่อนครับ
มีพระภิกษุรูปหนึ่งในครั้งพระัพุทธกาล ท่านแสดงธรรมเก่งมาก เหมือนทรงพระไตรปิฏก สอนลูกศิษย์เป็นพระอรหันต์ มากมายแต่ท่านกลับไม่ได้สำเร็จอะไรเลย มาวันหนึ่งท่านก็มาพิจารณาได้ว่าท่านขาดอะไร จึงยอมลดมานะลงไปเรียน กับสามเณร ๆ ก็แนะนำปราย ๆ ให้ท่านว่า พระอาจารย์ เห็นรูตัวเงิน ตัวทอง หรือไม่ครับ ถ้าเราอุดมันไม่ได้มันก็ออกมาได้ ท่านก็ยังวิปัสสนาโดยการเีที่ยบกับ อายตะนะ ภายใน และ ภายนอก ท่านจึงสำเร็จเป็นพระอรหันต์ครับ
ความสำคัญในการภาวนา อยู่ที่การ มีศีล สมาธิ และ ปัญญา ครับ ไม่ใช่ให้ความสำคัญด้านใด ด้านหนึ่ง ผู้ฝึกสมาธิ ไม่ใช่คนขาดเหตุ ผล หรือ หลง งมงาย ไม่ได้เป็นคนขาดการทำบุญ ไม่ได้เอาแต่นั่งหลับตาปี๋ อย่างเดียวครับ แต่ทุกอย่างฝึกไปพร้อมกันครับ ตามฐานะผู้ฝึกปฏิบัติ และ บารมีที่สั่งสมมา
ผมว่า ทุกวันนี้ เราติดเพียงรูปแบบภายนอก ไม่ได้พิจารณา ในธรรม ตามความเป็นจริง หรือป่าว
ยังติด สมมุติ เรื่อง สำนัก โน้น สำนัก นี้
แท้ที่จริง เป็นสำนักอะไรครับ ?
รูปแบบภายนอก มีไว้เพื่อให้เป็นระเบียบครับ ศีลธรรม เป็นเรื่องจำเป็นครับ เพราะถ้าขาดหายไปแล้ว ทุกคนจะไม่ได้อยู่สุขสงบอย่างนี้ คุณธรรมเป็นเรื่องภายในครับ มองเห็นกันไม่ได้ รูปแบบภายนอกทำให้คุณมีใจผ่องแผ้วก่อน สมมุติว่าถ้าบ้านคุณไม่มีคนเก็บกวาดให้ คุณจะอยู่ได้ หรือป่าว นึกจะอุจจาระตรงนี้ ก็อุจจาระตรงนี้ ทั่วไปทั้งบ้าน ดังนั้น ศีลธรรม มี จริยธรรม มี วัฒนธรรม ด้วยครับ เราถึงอยู่กันได้สงบๆ บ้าง
สำนัก วัด อาราม มี เยอะแยะ แต่ ปณิธานอันเดียวกัน ครับ
ถ้าปฏิบัติตาม ปณิธาน ของพระพุทธเจ้า ก็เป็นสำนักของพระพุทธองค์ครับ
พระพุทธเจ้า สอนให้เราพิจารณาตามความจริงไม่ใช่หรือครับ ?
มัวแต่มานั่งหลับตา แล้วเมื่อไร จะเข้าถึง ธรรมชาติ ล่ะครับ ?
้
สมาธิง ภิกขะเว ภาเวถะ สะมาหิโต ยะถาภูตัง ปะชานาติ
ดูก่อน ภิกษุทั้งพวกเธอทั้งหลาย พึงยังสมาธิให้เกิดขึ้นเถิด
ผู้ที่มีิจิตตั้งมั่นแล้ว ( มีสมาธิ ) ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=337.0อ่านตรงนี้เพิ่มนะครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=455.0อ่านตรงนี้ด้วยนะครับ
ลองพิจารณา สติปัฏฐาน 4 ให้ดีนะครับ จะได้ไม่เสียเวลา....
กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีสติปัฏฐาน 4 อยู่ในกรรมฐานอยู่แล้วครับ
สติปัฏฐาน 4 อยู่ในโพธิปักขิยธรรม 37 ครับ เป็นธรรมส่วนหนึ่งไม่ใช่ส่วนใหญ่
สติปัฏฐาน 4 ตั้งมั่นได้เพราะมี สังวรปธาน 4 อิทธิบาท 4 สติปัฏฐาน 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8
